แบงก์รัฐแชมป์โบนัส ธอส.มากสุด 6.5 เดือน
แบงก์รัฐยังโชว์ยอดจ่ายโบนัสสูงกว่า 5 เดือน แม้หนี้เสียเพิ่มจากน้ำท่วม ธอส.จ่ายมากที่สุด 6.5 เดือน รองลงมาเป็น ธ.ก.ส. และ ออมสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลัง ถึงผลสำรวจเบื้องต้นของการจ่ายโบนัสแก่พนักงานของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐประจำผลการดำเนินงานปี 2554 ซึ่งผลปรากฏว่า ยอดการจ่ายโบนัสของ 3 ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐขนาดใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่า 5 เดือน โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะมีจำนวนโบนัสประมาณ 6.5 เดือน เท่ากับปีก่อน รองลงมา เป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ ธนาคารออมสิน ที่คาดว่า จะมีโบนัสไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 5.6 เดือนสำหรับ ธ.ก.ส. และ 5.2 เดือนสำหรับธนาคารออมสิน
ส่วนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่นจะมีจำนวนโบนัสเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) จะมีอัตราโบนัสตามกฎหมายจัดตั้งที่ 1 เดือนต่อปี ส่วนธนาคารเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) มีจำนวนโบนัสที่ 1 เดือน สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ได้รับโบนัส เนื่องจากผลการดำเนินงานดีขึ้น อย่างไรก็ดี สำหรับโบนัสในปีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นเดียวกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่น
รายงานข่าวกล่าวว่า การพิจารณาจำนวนโบนัสของ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐนั้น ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในแต่ละปีเป็นหลัก โดยทุกแห่งจะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การชี้วัดของหน่วยงานที่กำกับดูแล คือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และ บริษัทจัดอันดับเครดิต ซึ่งก็คือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยลักษณะของการจ่ายโบนัสอาจ แบ่งเป็นสองช่วง โดยช่วงแรกจะจ่ายตามผลการดำเนินงาน และช่วงสองจะจ่ายภายหลังที่ผลการดำเนินงานผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับ เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาเกิดวิกฤติน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐหลายแห่งได้รับผลกระทบด้านการชำระหนี้ที่ล่าช้า ทำให้ระดับหนี้เสียของเพิ่มขึ้น และ บางส่วนก็ต้องพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า ดังนั้น ในส่วนนี้ อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวม และอาจกระทบต่อจำนวนโบนัสที่จะจ่ายแก่พนักงานบ้าง อย่างไรก็ตาม ระดับของการจ่ายโบนัสพนักงานโดยรวมถือว่ายังอยู่ในระดับสูง
ในส่วนของธนาคารพาณิชย์นั้น ประเมินว่า การจ่ายโบนัสในปีนี้ มีแนวโน้มที่ดีกว่าปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนใหญ่อัตราการจ่ายโบนัสของ ธนาคารพาณิชย์จะอ้างอิงจากผลประกอบการของธนาคารแต่ละแห่ง ซึ่งจะต้องรอสรุปผลประกอบการในช่วงต้นเดือนม.ค. 2555 แต่หากพิจารณาผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา พบว่าแนวโน้มการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2553 แทบทุกแห่ง แต่ธนาคารหลายแห่งจ่ายโบนัสล่วง หน้าเร็วกว่ากำหนดเพื่อให้พนักงานนำไปใช้จ่ายช่วงน้ำท่วมก่อน เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทิสโก้
ธนาคารกรุงเทพ โดยปกติจะมีการจ่ายโบนัสให้ พนักงาน 2 ช่วง คือ ช่วงปลายปีและกลางปีและเดือนมกราคม งวดละ 1 เดือน รวมเป็น 2 เท่าของเงินเดือน และมีเงินช่วยเหลือพิเศษอีก 1 เดือนที่จะจ่ายในวันที่ 20 ม.ค. 2555 แต่โบนัสงวดปลายปีของปีนี้ธนาคารกรุงเทพมีการจ่ายโบนัสล่วง หน้าตั้งแต่เดือนพ.ย. เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสามารถนำเงินไปใช้ก่อนได้ ไม่รวมเงินช่วยเหลือน้ำท่วมอีก 8,000 บาทสำหรับพนักงานที่โดนน้ำท่วม และในเดือนธ.ค. นี้ คณะกรรมการธนาคารได้ให้เงินช่วยเหลืออุทกภัยกรณีพิเศษอีกจำนวน 30,000 บาท จ่ายให้แก่พนักงานทุกคนเท่ากันในวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา และมีการเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานระดับต่ำกว่าเจ้าหน้าที่บริหารลงมาอีกคนละ 1,500 บาท ใส่เข้าไปในฐานเงินเดือนพนักงานทุกคนเท่ากันอีกด้วย
ทางด้านธนาคารกรุงศรีฯ จะมีการจ่ายโบนัสตามผลประกอบการของธนาคารในปี 2554 ซึ่งจะต้องรอประกาศในต้นเดือนม.ค. และจะมีการจ่ายโบนัสในช่วงเดือนมี.ค. 2555 แต่จากผลกระทบน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทำให้คณะกรรมการธนาคารมีมติแบ่งจ่ายโบนัสให้พนักงานล่วงหน้าเป็นจำนวน 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ต้องการเงินสำหรับซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โบนัสในส่วนที่เหลือจะต้องรอดูผลประกอบการอีกครั้ง ส่วนธนาคารธนชาตจะมีการจ่ายโบนัสตามผลงานของพนักงานในช่วงเดือนม.ค. นี้
ส่วนธนาคารกสิกรไทยจะมีการจ่ายโบนัสให้ พนักงานตามผลประกอบการธนาคารในปี 2554 โดยคำนวณจากอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และผลงานของพนักงานแต่ละคนด้วย โดยธนาคารแบ่งจ่าย 2 ครั้งด้วยกันในช่วงปลายเดือนก.พ. และต้นเดือนมี.ค. เนื่องจากต้องรอให้ผลประกอบการออกก่อน ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์มีการจ่ายโบนัสคงที่ จำนวน 1 เดือน ที่จ่ายในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา และจะมีการจ่ายโบนัสตามผลงานของพนักงานแต่ละรายอีกครั้งหนึ่ง . 
