คลื่นยักษ์ถล่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย “สมิทธ” ฉะหน่วยงานรัฐไม่เตือนล่วงหน้า
ดร.สมิทธ ระบุ ความเสียหายจากภัธรรมชาติมาก-น้อยขึ้นอยู่กับกลไกบริหารของรัฐบาล ย้ำปล่อยคนไม่ความรู้นั่งเก้าอี้บริหาร เสี่ยงเสียหายหนัก จี้ รัฐแก้ไขด่วน
ดร.สมิทธ ธรรมสาโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หนึ่งในกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวถึงคลื่นยักษ์หรือสตอมเซิร์จ (Storm Surge) ถล่มภาคใต้หลายจังหวัดว่า ภัยธรรมชาติดังกล่าวก่อให้เกิดคลื่นสูง 2-5 เมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตือนภัยต้องแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า เพื่อจะได้หลบหนี นำเรือประมงไปจอดในที่ปลอดภัย ขณะที่บ้านเรือนประชาชน ซึ่งอยู่ตามชายทะเลและมีสภาพไม่แข็งแรงจะได้ขนย้ายข้าวของ อุปกรณ์ต่างได้ทัน
“แต่ขณะนี้มีแค่กรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้นที่ออกมาเตือนและให้ความรู้แก่ประชาชน ส่วนศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ไม่เห็นถ่ายทอดองค์ความรู้ไปให้ประชาชนแต่อย่างใด ทั้งที่ใช้ภาษีของประชาชน ลงทุนตั้งระบบเตือนภัยไว้ทั่วประเทศเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท แต่กลับไม่เตือนประชาชนล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไร” ดร.สมิทธ กล่าว และว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติในประเทศไทย เมื่อครั้งก่อตั้ง 6 ปีที่ก่อน เป็นที่ยอมรับจากศูนย์เตือนภัยพิบัติประเทศฮาวายว่า เข้าขั้นเป็นศูนย์เตือนภัยระดับภูมิภาคได้ เนื่องจากมีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย มีระบบเตือนภัยผ่านดาวเทียม สื่อสารผ่านวิทยุ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ แต่กลับไม่มีใครลงมือทำ ต้องรอให้มีคนตายก่อน เหมือนกับช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ พอน้ำท่วมระดับเอว ระดับคอ คนที่กำลังจะตาย จะมาตอบได้อย่างไรว่าต้องการอะไร
ดร.สมิทธ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตภัยธรรมชาติจะเกิดถี่ขึ้น รุนแรงมากขึ้น ส่วนความเสียหายจะมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารงานของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลยังไม่เอาใจใส่ เพิกเฉย ปล่อยให้ผู้ที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้งาน ไม่มีความรู้พอมาบริหารหน่วยราชการ เอานักบัญชี ไปเป็นพยาบาล เพื่อฉีดยาให้คนไข้ ความเสียหายก็จะมีมากขึ้น ดังนั้น เรื่องดังกล่าวต้องมีการแก้ไขใหญ่โต
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกข่าวประชาสัมพันธ์ และสรุปรายงานสถานการณ์ตามปกติ พร้อมข้อควรระวัง แทนการออกประกาศเตือนภัย ขณะที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่นตะวันออก ประกาศเตือนภัยธรรมชาติ เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทยมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.