หน.พรรคเห็นพ้องไม่แตะม.112
บิ๊กบังเชิญหัวหน้าพรรคกินข้าวกลางวัน เห็นพ้องหยุดประเด็นแก้ม.112 โยน “ยงยุทธ” ตัดสินใจสลายหมู่บ้านแดงลดความแตกแยก
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ห้อง 3301 อาคารรัฐสภา 3 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดแถลงข่าวร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมืองรวมถึงตัวแทนกรรมาธิการจากทุกพรรคการเมือง
พล.อ.สนธิ เปิดเผยว่า การพูดคุยในวันนี้ หัวหน้าพรรคการเมืองทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกันที่จะนำไปสู่ความปรองดองและเห็นคนในชาติมีความสุข ซึ่งมีการเสนอว่าให้หยุดแตะต้องประเด็นอ่อนไหว เพื่อลดความขัดแย้งในสังคม พร้อมกับนำข้อเสนอของ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สมัชชาปฏิรูปประเทศไทย และ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย รวมถึงคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญมารวบรวมเป็นข้อเสนอเพื่อเป็นทางออกของประเทศ
"หัวหน้าพรรคทุกคน เห็นพ้องกันว่าควรระงับเรื่องปรมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไว้ก่อนเนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมมองเห็นว่าเป็นประเด็นอ่อนไหว ซึ่งนายยงยุทธ วิชัยดิษฐในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็เห็นด้วย และรับปากว่าจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 อย่างแน่นอน"พล.อ.สนธิกล่าว
ขณะที่ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทุกคนก็เห็นร่วมกันว่าสามารถแก้ไขได้ หากไม่ไปแตะต้องประเด็นที่คลุมเครือ ว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อใครหรือไม่ หากประเด็นใดที่ไม่ชัดเจน ก็ได้เสนอไปยังรัฐบาลว่าจะต้องทำให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เสนอแนะว่า หากจะเดินหน้าปรองดอง รัฐบาลจะต้องสร้างมาตรฐานความถูกต้องให้ชัดเจน ทั้งนี้ในอนาคต จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาหารือกันเพิ่มเติม โดยจะมาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทหาร หัวหน้ากลุ่มการเมือง นักวิชาการ แต่จะไม่รวมไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องจากคณะกรรมธิการมองว่า ไม่ได้อยู่ในคู่ขัดแย้งหลัก รวมถึงจะไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม หรือระบบตุลาการ
นายนคร มาฉิม สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บนโต๊ะอาหารยังได้หารือถึงประเด็นอ่อนไหวอย่าง การขยายตัวของหมู่บ้านเสื้อแดง ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ว่าขอให้พรรคเพื่อไทยไปเจรจากับแกนนำ เพื่อให้หยุดการขยายตัวดังกล่าว เนื่องจากทุกคนเห็นตรงกันว่า อาจสร้างความขัดแย้งมากขึ้น และทำให้สังคมตั้งคำถามว่าจะปรองดองได้จริงหรือไม่ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็รับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมพรรคต่อไป ซึ่งกระบวนการขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล ควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานของสถาบันพระปกเกล้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และนำเสนอต่อสังคมได้ในอนาคต
ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้เสนอรายชื่อ คณะกรรมการ 34 เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ได้มีการหารือกันในวงสนทนาเช่นเดียวกัน ว่าจะให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เป็นไปในรูปแบบใด ซึ่งนายอภิสิทธิ์เองก็เสนอแนะขึ้นมาว่าไม่อยากให้สสร.เป็นไปในรูปแบบพวกมากลากไป และยกตัวอย่างขึ้นมาว่า อาจให้มีการเลือกตั้งสสร.ในทุกจังหวัด แต่อาจจะให้มีจังหวัดละ 2 คน โดยให้ผู้ที่ได้รับคะแนนอันดับ 1 และอันดับ 2 เข้ามาเป็นสสร. เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาด
ขณะที่เรื่องที่เป็นรายละเอียดย่อยอย่าง “กฎหมายนิรโทษกรรม” “ผังล้มเจ้า” หรือ “การสลายการชุมนุม 91 ศพ” นั้นไม่ได้มีการหารือกันในวันนี้
ด้าน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ม.ค.นี้ คณะกรรมาธิการฯได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเข้ามาหารือร่วมกันถึงแนวทางปรองดอง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการเชิญคู่ขัดแย้งในภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาหารือร่วมกันอีก รวมถึงรับปากจะนำประเด็นต่าง ๆ ที่พรรคการเมืองหารือกันในวันนี้ เช่นเรื่องการสลายหมู่บ้านเสื้อแดง เสนอต่อที่ประชุมพรรคอีกด้วย![]()
