"พ่อโพสต์เฟสบุ๊ก ระบาย! ลูกสาวขับรถเก็บโปเกมอน โก จนเกิดอุบัติเหตุ"
"เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ... พ่อนักเรียนชั้นม.6 โพสต์ข้อความระบายในเฟสบุ๊ก "รอยยิ้มของนักสู้ เชียงใหม่ " หลังจากพบว่า ลูกสาวประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บขณะขับรถตามเก็บโปเกมอน โก พร้อมเตือนคอเกม เล่นถูกที่ถูกเวลา อย่าสร้างความเดือดร้อนต่อสังคมและครอบครัว"
กระแสคลั่งไคล้เกมยอดฮิต "โปเกมอน โก" ที่ลุกลามออกไปทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยขณะนี้ ถึงกับมีการตระเวนขับรถยนต์-จักรยานยนต์ เพื่อใช้สมาร์ทโฟน ตามเก็บตัวมอนสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ จนหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ในเรื่องความปลอดภัย และ เริ่มมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นเกมเพิ่มขึ้นแล้ว
ล่าสุด มีเรื่องอุทาหรณ์เตือนภัยเรื่องใกล้ตัวจากการเล่นเกมโปเกมอน โก โพสต์อยู่ในเฟสบุ๊กชื่อ "รอยยิ้มของนักสู้ เชียงใหม่
" เป็นข้อความพ่อพูดถึงลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บจากการขับรถตามเก็บโปเกมอนโก พร้อมลงภาพลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นเกม ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนและประสบอุบัติเหตุจนต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีข้อความว่าเรียนดีเรียนเก่งเกรด 4 เกือบทุกวิชา แต่โง่บ้าโปเกมอน...เสียดายเวลาเสียดายเงินส่งเรียน.....เตือนภัยขับรถตามหาโปเกม่อน อุบัติเหตุเจ็บมา โปเกม่อนไม่ช่วยอะไรนะครับ...มีแต่พ่อแม่นี่วิ่งวุ่นเข้าโรงพยาบาลหัวใจแทบสลาย..ไหนจะลูกเจ็บไหนจะค่ารักษาพยาบาลต้องไป โรงพักต้องไป บริษัทประกันภัยต้องหาเงินจ่ายค่ารักษา ต้องรีบกลับไปทำงานต้องทำงานฟรีเป็นเดือน ต้องซ่อมมอเตอร์ไซค์ ต้องซ่อมมือถือต้องพาไปล้างแผลทุกวัน...คนขับรถตามหาโปเกม่อน โชดดีก็บาดเจ็บเล็กน้อย คนหลายคนโชดร้ายถึงตาย ตามหาจอดรถไม่ระวัง คันหลังวิ่งมาชนเดือดร้อนคนอื่นอีก"
ข่าวล่าสุดคนเล่นเกมส์นี้มากมายทั่วโลก บริษัทเกมส์นี้รับทรัพไปหลายพันล้านบาท...เล่นให้ถูกที่ถูกเวลาครับ...คลิปนี้ภาพแผลจากลูกสาวผมเอง เกิดอุบัติเหตุจากการเล่นเกมส์นี้ขณะขับรถไปโรงเรียน มัวแต่มองมือถือกัน รถวิ่งไปชนฟุตบาทข้าง
ทาง โชดดีที่ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิตฝากไว้เตือนภัยครับ....
1.โรงพยาบาลมีผู้ได้รับอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น..
2.ประกันภัยทำงานหนัก..
3.คนไม่รู้จักกันมาเจอกันที่โรงพัก..
4.กาชาดวิ่งหาเลือด
5.โอกาสโดนล่อลวงสูง
6.อาจเกิดการก่อการร้ายในกลุ่มคนที่ไปรวมตัวกันมากๆเพราะฉะนั้่น..จงเลือกเล่นเกมให้มีสติ...พยายามอย่าทำให้ใครเดือดร้อน เล่นให้ถูกที่ถูกทางถูกเวลาครับ...อย่าให้เดือดร้อนสังคมและเดือดร้อนครอบครัว
ขอบคุณข่าวจาก
