"คณิตศาสตร์การเมือง" ว่าด้วยการแสดงประชามติ ข้อท้วงติงต่อการรายงานผล
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับฟังชี้แจงข้อมูลที่เป็นจริงจากผู้รับผิดชอบ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับการรายงานผลการแสดงประชามติ และการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีปราศจากความรุนแรงในช่วงก่อน และระหว่างการลงประชามติแม้จะมีปัญหาและข้อจำกัดมากมาย รวมถึงการสูญเสียโอกาสของประชาชนในการเรียนรู้ร่างรัฐธรรมนูญอย่างมีคุณภาพ เพราะ
ข้อกำหนดต่างๆ ก็ตาม
เจตจำนงในการเขียนบทความนี้ เพื่อเป็นการตั้งคำถามเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งหวังในสิทธิที่ประชาชนพลเมืองจะได้รับรู้ความจริงที่ยังมิได้มีการชี้แจง และเปิดเผย หาได้มีเจตนาที่จะล้มการแสดงประชามติ หรือเปลี่ยนแปลงผลการแสดงประชามติของประชาชน กว่า 29.7 ล้านคน แต่อย่างใดไม่
ในฐานะที่เป็นพลเมืองผู้มีสิทธิโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นจริง และ เที่ยงธรรม จากองค์กรภาครัฐที่
เกี่ยวข้อง จึงใคร่ขอแสดงความเห็น ตั้งข้อสังเกต และข้อท้วงติงต่อ “ความผิดปรกติ” ในการรายงานผลประชามติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสื่อมวลชน ว่าด้วย “คณิตศาสตร์การเมือง” ดังต่อไปนี้
ก. จากรายงานข่าวผลการลงประชามติ จากสื่อมวลชน ดังรายละเอียด
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการกกต. ร่วมกับกรรมการ กกต. อีก 3 คน ได้แก่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายประวิช รัตนเพียรและนายบุญส่ง น้อยโสภณร่วมกันแถลงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. …. และคำถามพ่วง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา อย่างเป็นทางการ
นายศุภชัยกล่าวว่า ที่ประชุม กกต. วันนี้ ได้พิจารณาผลการลงประชามติ พบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 50,071,589 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 29,740,677 คน คิดเป็น 59.4% เป็นบัตรดี 28,804,432 ใบ (96.85%) และบัตรเสีย936,209 ใบ (3.15%)
- การลงประชามติในประเด็นที่ 1 (เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฯ ทั้งฉบับหรือไม่) มีคะแนนเสียงเห็นชอบ 16,820,402เสียง (คิดเป็น 61.35%) ไม่เห็นชอบ 10,598,037 เสียง (38.65%)
- การลงประชามติในประเด็นที่ 2 (ค าถามพ่วง ที่ให้ ส.ว.สรรหา ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส.เลือกตั้ง ในช่วง 5 ปีแรก) มีคะแนนเสียงเห็นชอบ 15,132,050 (คิดเป็น 58.07%) และไม่เห็นชอบ 10,926,648 เสียง (41.93%) และ จากเวปไซต์ของ กกต. http://www.ect.go.th/th/?p=10330
ข. จากการศึกษาผลการลงประชามติดังกล่าวข้างต้น ได้ก่อให้เกิดข้อสงสัยที่ต้องการคำชี้แจงต่อไปนี้
1. เมื่อมีผู้ใช้สิทธิ29,740,677 คน โดยเป็นบัตรดี 28,804,432 ใบ และบัตรเสีย 936,209 ใบ
ผลรวมของบัตรดี กับบัตรเสีย คือ 29,740,641 ใบ
เหตุใด ตัวเลขจึงแตกต่างกัน ถึง 36 ใบ
2. เมื่อมีผู้ใช้สิทธิ29,740,677 คน โดยเป็นบัตรดี 28,804,432 ใบ และบัตรเสีย 936,209 ใบในขณะที่ มีบัตรลงประชามติในประเด็นที่ 1 เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ 16,820,402 เสียง และ ไม่เห็นชอบ
10,598,037 เสียง รวมเป็น 27,418,439 เสียง
ถามว่า เสียงจำนวน 28,804,432 - 27,418,439 = 1,385,993 เสียง หายไปไหน คืออะไร
3. เมื่อมีผู้ใช้สิทธิ29,740,677 คน โดยเป็นบัตรดี 28,804,432 ใบ และบัตรเสีย 936,209 ใบในขณะที่ มีบัตรลงประชามติในประเด็นที่ 2 เห็นชอบกับคำถามพ่วง 15,132,050 เสียง และไม่เห็นชอบ 10,926,648 เสียง รวมเป็น 26,058,698 เสียง
ถามว่า เสียงจ านวน 28,804,432 - 26,058,698 = 2,745,734 เสียง หายไปไหน คืออะไร
4. การคิดคำนวณร้อยละ ของผลการลงประชามติ หากต้องการให้สะท้อนความจริงที่ไม่เบี่ยงเบน หรือบิดเบือน(misleading/ deviation/ distortion) จนก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ควรคิดคำนวณจากฐานตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิจริง (คือ 29,740,677 คน) มิใช่คำนวณเป็นสัดส่วนจากผลรวมของเสียงที่รับรอง หรือไม่รับรองเท่านั้น ทั้งนี้ทุกเสียง ทุกบัตรย่อมมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเสีย หรือไม่ทราบเจตนาก็ตาม
ค. การรายงานผลที่ถูกต้อง น่าจะเป็นดังนี้
มีผู้ใช้สิทธิ29,740,677 คน
บัตรลงประชามติในประเด็นที่ 1
เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 16,820,402 เสียง
คิดเป็น 16,820,402 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 56.557 %
ตามหลักบัญญัติไตรยางศ์ ที่มีการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา
ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 10,598,037 เสียง
คิดเป็น 10,598,037 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 35.635 %
ตามหลักบัญญัติไตรยางศ์ ที่มีการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา
บัตรเสีย จำนวน 936,209 ใบ
คิดเป็น 936,209 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 3.148 %
คะแนนปริศนาที่หายไป ไม่มีการระบุรายละเอียด จำนวน 1,385,993 เสียง
คิดเป็น 1,385,993 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 4.66 %
ง. บัตรลงประชามติในประเด็นที่ 2
เห็นชอบกับคำถามพ่วง จำนวน 15,132,050 เสียง
คิดเป็น 15,132,050 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 50.88 %
ตามหลักบัญญัติไตรยางศ์ ที่มีการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา
ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 10,926,648 เสียง
คิดเป็น 10,926,648 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 36.74 %
ตามหลักบัญญัติไตรยางศ์ ที่มีการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา
บัตรเสีย จ านวน 936,209 ใบ
คิดเป็น 936,209 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 3.148 %
คะแนนปริศนาที่หายไป ไม่มีการระบุรายละเอียด จ านวน 2,745,734 เสียง
คิดเป็น 2,745,734 หาร 29,740,677 แล้วคูณ 100 ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 9.232 %


หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับฟังชี้แจงข้อมูลที่เป็นจริงจากผู้รับผิดชอบ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับการรายงานผลการแสดงประชามติ และการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
* บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมือง สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง อดีตอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ. 2552-2558)
