ตั้ง“ธงทอง”ปธ.อนุวางกรอบเยียวยาเหยื่อม็อบการเมือง
ปคอป.ตั้ง“ธงทอง”เป็นปธ.อนุคณะกรรมการวางกรอบเยียวยาเหยื่อม็อบการเมือง ถกนัดแรก 18 ม.ค. ชี้ครอบคลุมทหาร-ตร.บาดเจ็บ-ตายเพราะทำหน้าที่คุมม็อบด้วย เชื่อไม่เพิ่มปมขัดแย้งบานปลาย
วันนี้ ( 13 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ โฆษกคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) แถลงชี้แจงมาตราการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ว่า การเยียวยาเป็นมาตรการทางแพ่ง และเป็นกระบวนการเบื้องต้นก่อนนำไปสู่การสร้างความปรองดอง และตนเชื่อในระยะยาวสันติสุขจะกลับคืนสู่ประเทศไทย เพราะเป็นการเยียวยาให้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือสีใด และยังครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงการชุมนุมทางการเมือง โดยรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบและต้องรับผิดชอบความเป็นอยู่ของครอบครัวของผู้สูญเสียให้อยู่ในสังคมได้ตามปกติ ส่วนการกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับการเยียวยานั้น ปคอป.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มาดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เวลา 08.00 น. สำหรับวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในเรื่องดังกล่าวขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขชัดเจน เพราะต้องรอผลสรุปของคณะอนุกรรมการในเรื่องของยอดรวมของผู้ที่ขอรับการชดเชยเยียวยาทั้งหมด แล้วจึงจะตั้งวงเงินงบประมาณเสนอต่อกระทรวงการคลังต่อไป
เมื่อถามว่าจะนำงบประมาณ 3,000 ล้านบาทที่เหลือจากการจ่ายชดเชยเยียวยาในรัฐบาลชุดที่แล้ว มาใช้ในการเยียวยาครั้งนี้หรือไม่ นายวีระวงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่จะดำเนินการโดยเร็ว โดยปคอป.มีข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองอยู่ในมือบ้างแล้ว
ต่อข้อถามถึงกรณีของผู้ที่ทำผิดกฎหมายในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง จะอยู่ข่ายได้รับการเยียวยาด้วยหรือไม่ นายวีระวงศ์ กล่าวว่า กรณีนี้จะชัดเจนก็ต่อเมื่อศาลจะพิพากษา แต่อนุกรรมการฯจะไปศึกษาหลักเกณฑ์เบื้องต้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรม
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่เชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมมากขึ้นหรือไม่ นายวีระวงศ์ กล่าวว่า ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องการยุยงส่งเสริมหรือให้ผลประโยชน์จากการชุมนุม แต่เป็นเรื่องเยียวยาจากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลให้เกิดความสงบได้
ต่อข้อถามว่าจะเทียบมาตรการเยียวยากับเหตุการณ์อย่างอื่นหรือไม่ นายวีระวงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ขอบเขตของ ปคอป. ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่มีบางคนนำไปเปรียบเทียบกับเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่อำนาจของปคอป. แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการชุดอื่นที่ดูแลศึกษาอยู่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้วิจารณ์ว่าทำไมต้องนำภาษีของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ร่วมการชุมุนม ไปเยียวยากลุ่มคนที่สร้างความเดือดร้อน นายวีระวงศ์ กล่าวว่า มาตราการดังกล่าวมาจากพื้นฐานที่ไม่ได้สรุปว่าใครผิด แต่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่เลยมาถึงจุดนี้ และต้องสร้างครรลองให้เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นดุลยพินิจของรัฐบาลในการใช้งบประมาณแผ่นดิน อีกทั้ง ส่วนตัวตนมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่และกระทบกับคนทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่ากระบวนการนี้เป็นการปรับโหมดให้ทุกอย่างเริ่มนิ่ง.

