แนวโน้มจีนลงทุนแซงหน้าญี่ปุ่น ชี้ 7 ด. ของส่งเสริมบีโอไอกว่า 2 หมื่นล.

1 ก.ย.59 นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลัง นายฉง ซู่เฟิง รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ของมลฑล สาธารณรัฐประชาชนจีน พาคณะนักลงทุนประมาณ 10 รายจากมณฑลเจียงซู เข้าพบที่กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้พาคณะนักลงทุนเข้าพบเพื่อขอรับทราบนโยบายส่งเสริมการลงทุน และความช่วยเหลือให้สะดวกต่อการลงทุนในไทย

ทางกระทรวงฯจึงชี้แจงถึงนโยบาย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดสิทธิประโยชน์รองรับแล้ว รวมทั้งการเดินหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่จะทำให้เกิดพื้นที่อุตสาหกรรม การค้า บริการแห่งใหม่ของอาเซียน พบว่า นักลงทุนจากจีนให้ความสนใจอย่างมาก โดยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีนักลงทุนจากมณฑลเจียวซูเข้ามาลงทุนในไทยแล้วรวม 87 ราย มูลค่าลงทุน 2.1 หมื่นล้านบาท และหากดูภาพรวมการลงทุนของจีนในไทยในปี 2559 พบว่าช่วง 7 เดือน(มกราคม-กรกฎาคม) มีการลงทุนโดยตรงจากจีนในไทยแล้ว 55 โครงการ มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท

สำหรับมณฑลเจียงซู ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 102,600 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 80 ล้านคน (ปี 2547) ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับมณฑลเจ้อเจียง และนครเซี่ยงไฮ้ มีเมืองเอก คือ เมืองหนานจิง เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมแนวหน้าของประเทศจีน ได้แก่ อุตสาหกรรม เครื่องจักร ปิโตรเคมี โลหะ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ และก่อสร้าง โดยในปี 2558 ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของมณฑลเจียงซูประมาณ 1.125 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จีดพี ต่อหัวในปี 2558 อยู่ที่ 14,142 เหรียญสหรัฐฯ มาจากภาคการเกษตร 5.6% ภาคอุตสาหกรรม 47.7% และอุตสาหกรรมด้านการบริการ 47%

นางวัชนี ถิ่นธานี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ บีโอไอ กล่าวว่า นักลงทุนจากจีนถือเป็นเป้าหมายหลักในการเข้ามาลงทุนในไทย เพราะมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูง มีบริษัทอันดับต้นของโลกที่มีเทคโนโลยีของตนเอง และได้รับการยอมรับระดับสากล

ล่าสุดรัฐบาลจีนมีนโยบายวันเบลท์ วันโร้ด ที่มุ่งลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพื่อใช้เป็นฐานลงทุนและฐานกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่น ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีนี้ พบว่านักลงทุนจีนถือเป็นอันดับต้นที่เข้าลงทุนไทย ติดอันดับใน 1 ใน 5 และล่าสุดปีนี้ช่วง 7 เดือนมีการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนแล้ว 2.1 หมื่นล้านบาท เป็นรองญี่ปุ่นอันดับ 1 ซึ่งอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท จึงต้องติดตามว่าช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นจนสามารถแซงญี่ปุ่นได้หรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนการลงทุนจีนเข้าไทยที่มาจากนครเซี่ยงไฮ้ มีมณฑลเจียงซูรวมอยู่ด้วย และปีนี้มีการยื่นของลงทุนแล้วประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าทั้งปีการลงทุนจากนครเซี่ยงไฮ้น่าจะได้ตามเป้าหมาย 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการขอลงทุนจากเมืองอื่นต้องติดตามอีกครั้ง เพราะวันที่ 7 กันยายนนี้ นักลงทุนจากมลฑลซานตง จะมาประเทศไทยเพื่อศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุนครั้งแรกในไทย รวมคณะนักลงทุนจากจีนที่เข้ามาศึกษาการลงทุนไทยตลอดปีงบประมาณ 2559 รวม 8 คณะ

ส่วนแผนการชักจูงการลงทุนจีนในปีงบประมาณ 2560 บีโอไอ กำหนดแผนงานชัดเจนขึ้น โดยจะเน้นทำกิจกรรมเพื่อเจาะนักลงทุนที่มีศักยภาพเป็นรายบริษัท ตั้งเป้าชักจูงการลงทุนให้ได้ 80 บริษัท อุตสาหกรรมที่ต้องการให้เข้ามาลงทุน คือ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ รถไฟฟ้า

ขอบคุณข่าวจาก