กสทช.คลอด 3 มาตรการเอาผิดมือถือ
กสทช.เร่งคลอด 3 มาตรการเอาผิดค่ายมือถือระบบล่ม นักวิชาการติงระวังถูกฟ้องร้อง เหตุกระทบการใช้งานเดิม
พ.อ.เศราฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสีรยง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการชุดย่อยส่วนกิจการโทรคมนาคมมีมติให้เร่งออกมาตรการ 3 ระยะ เพื่อเอาผิดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้เร็วที่สุด หลังเกิดกรณีระบบล่มของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค
มาตราการ 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะสั้น คือ การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลในเรื่องนี้ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการทุกรายที่มีแผนจะปรับปรุงโครงข่าย หรือ โอนย้ายข้อมูลในระบบจะต้องส่งเรื่องให้กสทช.คณะกรรมการรับทราบก่อนและรอจนกว่าจะได้รับการอนุมัติ จึงจะเริ่มดำเนินการได้
มาตรการระยะกลาง คือ แก้ไขเพิ่มเติมในประกาศกกสทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ให้ครอบคลุมเรื่องคุณภาพการให้บริการของผู้ให้บริการในเชิงลึกและละเอียดมากขึ้น เพื่อให้สามารถเอาผิดจนถึงขั้นปรับ รวมทั้งกำหนดให้แจ้งผู้ใช้บริการล่วงหน้าหากจะมีการปรับปรุงใดๆ
ส่วนมาตรการระยะยาว คือ เรื่องของคุณภาพการให้บริการ (Quality of Service) ในส่วนของบริการสื่อสารข้อมูล หรือ ดาต้า เพราะประกาศที่ผ่านมาครอบคลุมเฉพาะบริการด้านเสียง ทำให้ผู้ให้บริการใช้เป็นข้ออ้างได้เวลาเกิดปัญหาการใช้งานเชื่อมต่อดาต้าไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นมาตรการระยะยาวเพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนนายอานุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังในขณะนี้ คือ อาจมีการฟ้องร้องในเรื่องนี้เกิดขึ้น เนื่องจากสัญญาการให้บริการ 3 จีเอชเอสพีเอ ที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ถือว่าผิดสัญาสัมปทาน ดังนั้น จึงเป็นสิทธิ์ของผู้ใช้ที่สามารถฟ้องร้องได้ จากการที่บริการเดิมบนระบบ 2 จี ซึ่งถูกต้องตามสัมปทานได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการในเรื่องนี้อย่างจริงจังว่าการให้บริการเอชเอสพีเอที่ดำเนินการอยู่นั้นไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ผู้ให้บริการต่างเร่งขยายโครงข่ายเพื่อ รองรับการใช้งานดาต้า แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ควรมีการแก้ไขในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช กล่าวว่า นอกจากเรื่องมาตรการ 3 ระยะแล้ว ยังหารือกันในเรื่องของ กงอทุนบริการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ ยูเอสโอ ที่กทช.เดิมมีมติให้หยุดจ่ายเพื่อรอ กสทช. ส่งผลให้กองทุนขาดรายได้ประมาณ 500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว จึงจะพิจารณาอีกครั้งว่าควรต้องจ่ายย้อนหลังหรือไม่
สำหรับเงินกองทุนยูเอสโอนับตั้งแต่ตั้ง กสทช.มาระยะเวลากว่า 6 ปี มีรายรับ 2,900 ล้านบาท เฉพาะผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเอกชน เช่น การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ขณะที่ ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ดำเนินการยูเอสโอด้วยตัวเองคิดเป็นมุลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท
