คุณมีชัยกับการปฏิรูปการศึกษา
"เด็กธรรมดาๆถูกฝึกเป็น "ผู้ประกอบการ" ครับ ไม่ใช่แค่เป็น "นักเรียน" ไม่ใช่แค่เด็กยากจนแต่โชควาสนามีได้คนดีคนรวยมาสงเคราะห์ มาให้ทาน เปล่า หามิได้ เด็กจะต้องปลูกต้นไม้และดูแลต้นไม้ให้โรงเรียนหรือป่าเสื่อมโทรมตามที่โรงเรียนกำหนดให้ คิดเป็น 50 บาท ต่อต้น ค่าเล่าเรียนบวกค่ากินนอนเป็นเท่าไร เอาห้าสิบไปหาร ออกมาเป็นจำนวนต้นไม้ที่เด็กต้องรับผิดชอบปลูกและจัดการดูแลให้โรงเรียน"
ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ โพตส์บทความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว AnekLaothamatas เรื่อง คุณมีชัยกับการปฏิรูปการศึกษา
----
อาทิตย์ที่แล้วคุณมีชัย วีระไวทยะ แวะมาเยี่ยมผมในฐานะ ผอ โรงเรียน "มีชัยพัฒนา" ตั้งอยู่ที่บุรีรัมย์ พา นศ ปี 1-2 ของ ม รังสิต 5-6 คน มาด้วย ซึ่งเด็กเหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์เก่าของท่านจบจากโรงเรียน และได้ทุนมาเรียนต่อในคณะต่าง ๆ ของรังสิต
"โรงเรียนผม ก่อนอื่น สอนให้เด็กชาวบ้านเป็นผู้ประกอบการ" ท่านเริ่มการสนทนา โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำรับเด็ก "จากทั่วประเทศ แล้วตอนนี้ แต่เดิมทีนั้นเริ่มจากเด็กบุรีรัมย์ นี่แหละ" ฟังแล้วคิดอยู่ว่าเด็กส่วนใหญ่น่าจะมาจากครอบครัวคนธรรมดา ค่อนข้างยากจน จึงถามท่านไปว่า "ฟรีใช่ไหมครับ ค่าเล่าเรียนและกินอยู่"
ท่านตอบด้วยการโยนไปให้เด็ก ถามนำว่า "ผอ สอนพวกเธอว่าแม้เราจะจน เราต้องไม่เป็นอะไรนะ" เด็กทั้งชายทั้งหญิงตัวเล็กๆ หน้าตาน่าเอ็นดู ผิวคล้ำตามธรรมชาติ ไม่หล่อเหลา ไม่สวยหรูตอบเสียงดัง และนำ้เสียงนั้นซ่อนไว้ด้วยความเข้มแข็งและสดใส "ไม่ให้เป็นขอทานครับ/ค่ะ"
เด็กธรรมดาๆถูกฝึกเป็น "ผู้ประกอบการ" ครับ ไม่ใช่แค่เป็น "นักเรียน" ไม่ใช่แค่เด็กยากจนแต่โชควาสนามีได้คนดีคนรวยมาสงเคราะห์ มาให้ทาน เปล่า หามิได้ เด็กจะต้องปลูกต้นไม้และดูแลต้นไม้ให้โรงเรียนหรือป่าเสื่อมโทรมตามที่โรงเรียนกำหนดให้ คิดเป็น 50 บาท ต่อต้น ค่าเล่าเรียนบวกค่ากินนอนเป็นเท่าไร เอาห้าสิบไปหาร ออกมาเป็นจำนวนต้นไม้ที่เด็กต้องรับผิดชอบปลูกและจัดการดูแลให้โรงเรียน
เด็กจะรักโรงเรียน อยากมาโรงเรียน "มีชัยพัฒนา" นี้ ด้วยเหตุผลพิเศษที่ไม่มีในโรงเรียนทั่วไป คือมาโรงเรียนแล้วได้ฝึกอาชีพและมีรายได้เป็นกอบเป็นกำด้วย ครูจะให้เด็กปลูกผักในท่อพีวีซีใช้ปุ๋ยนำ้ ไม่ต้องปลูกในดิน ปลูกผักเป็นชั้นแต่ปลูกหลายๆชั้น ซ้อนกันขึ้นไป "เชื่อไหมครับพื้นที่แค่นี้ 4 คูณ 5 ตารางเมตร ผักทำรายได้ให้เด็กที่ดูแล ราวคนละสองพันบาท" ท่านเล่าต่อ ครับ ฟังได้ความว่าเด็กสนุก รักกันช่วยกัน และนำเงินไปให้พ่อแม่ก็ได้ เป็น "พ้อคเก็ตมันนี่" เอาไว้ใช้เองก็ได้
โรงเรียนนี้วิเศษตรงที่ไม่สนใจแต่หลักวิชา ไม่แยกเด็กออกจากสิ่งแวดล้อม สอนเด็กให้ทำงาน ให้หาเงินหารายได้ แต่ไม่ใช่ด้วยการใข้แรงงานเท่านั้น หากเป็น "ผู้ประกอบการ" แต่วัยเยาว์ รู้จักสำรวจสังคมว่าบ้านเรามีอะไรที่นำมา "ประกอบการ"ได้ รู้จักสำรวจตลาดว่าต้องการสินค้าอะไร รู้จักสรรหาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแต่ไม่แพง และ แน่นอน โรงเรียนรวมทั้ง ผอ มีชัย จะแนะนำ ช่วยกันคิดช่วยกันค้นคว้ากับเด็กว่าควรจะประกอบการอะไรดีควรประกอบการอย่างไร ร่วมมือร่วมทุนกันอย่างไร เด็กจะถูกฝึกให้ประกอบการร่วมกัน ทำให้สำเร็จ เริ่มจากอะไรที่ไม่เสี่ยง พอมีกำไรบ้างก็พอให้เกิดมีกำลังใจ เชื่อมั่นตนเอง สะสมทักษะและประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง
มีชัย วีระไวทยะ กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล
ระหว่างที่เรียนไปเด็กอาจจะขยับขยายไปประกอบการอื่นๆที่ไม่ใช่ผักอย่างเดียวก็ได้ เช่น ทำผลไม้ จักสาน ทอผ้า ทำกระเป๋า ประเด็นคือล้วนต้องสวย ดี เก๋ น่าซื้อ ราคาสมเหตุสมผล เป็น" มืออาขีพ" ว่าอย่างนั้น
โรงเรียนนี้แสนวิเศษอีกอย่างหนึ่งครับ คือทำตัวเป็นหน่วยในการพัฒนารายได้ครอบครัว เขาไม่แยกเด็กออกจากครอบครัวเอามา "กักตัว" ไว้ให้ "เรียนหนังสือ" อย่างเดียว ตรงข้าม พ่อแม่สามารถเอา "โครงการ" ที่เด็กประกอบการอยู่กับครูที่โรงเรียนไปทำต่อที่บ้านด้วยก็ยังได้ และโรงเรียนอุตส่าห์มีทุนรอนจำนวนหนึ่งให้พ่อแม่เด็กกู้ไปประกอบการที่บ้านเองได้ด้วย ทั้งเด็กทั้งพ่อแม่จึงรักโรงเรียน อยากไปเรียน หรือสนับสนุนให้เด็กไปเรียน ทำไม ?เพราะนอกจากเด็กจะได้วิชาความรู้สำหรับไปเรียนต่อหรือไปมีงานทำในอนาคตแล้ว ณ ปัจจุบันกาล ที่เด็กอยู่ที่โรงเรียนนั้น ยังนำมาซึ่งรายได้จำนวนไม่น้อยแก่ครอบครัว
ฟังมาราวชั่วโมง ร่วมกับ ดร พีรพงศ์ สาคริก และ ดร ดวงพร สุวรรณกุลด้วยความชื่นชมทั้งในตัว ผอ ทั้งในตัวเด็ก สุดท้ายผมก็ถามปัญหาหลักกับเด็กห้าหกคนนั้นว่า " ตอนนี้มาอยู่รังสิต ไม่เหมือนเดิมแล้ว เข้ากับเพือนใหม่ได้ไหม ?" เขาตอบว่า "ได้ ไม่มีปัญหา" ถามต่อ "เด็กรังสิตส่วนหนึ่งเฟี้ยวฟ้าว สวยหล่อ ขับรถนะ ดาราก็มี แล้วเราเข้ากับเขาได้อย่างไร ?" เด็กหญิงคนหนึ่งตอบ "ก็อาศัยเวลา และดีกับเขา ช่วยเหลือเขา แค่นั้นเอง " ผมคิดตาม เออ ฉลาดจริง แม่คุณ ใครจะใจจืดใจดำได้นาน ถ้าคนๆหนึ่งรักเราและดีกับเรา เราก็คงจะอดรักตอบไม่ได้แน่นอน พลางหยอดถามอีก "แล้วหนูอยากเป็นอย่างเขาบ้างไหม ?"
นึกในใจ ตั้งใจจะถามว่าทำไมหนูไม่อยากร่ำอยากรวยไม่ทำงาน เอาแต่บริโภค เป็นนักช้อปปิ้งตัวยง อย่างที่เด็กบางกลุ่มเป็น เด็กหญิงอีกคนหนึ่งตอบพอดี "ไม่ล่ะค่ะ ทางใครทางมัน หนูจะฝึกตนเองเป็นผู้ประกอบการที่เก่งและดีต่อไปดีกว่าค่ะ"
ผมฟังแล้วอดดีใจไม่ได้ อืม ยังมีเด็กแบบนี้เหลืออยู่ เมืองไทยไม่สิ้นหวัง ในยามที่เด็กนักเรียนนักศึกษาเบื่อโรงเรียนและห้องเรียน ในยามที่เด็กๆ และวัยรุ่นจำนวนมากเป็น "มนุษย์ปัญหา" ในร้อยพันเรื่อง เด็กของ ผอ มีชัยยืนอยู่ตรงข้ามหมด โรงเรียน"มีชัยพัฒนา" สร้างเด็กมาเป็น "มนุษย์จอมพลัง" หรือ "มนุษย์ค้นหาโอกาส" ของครอบครัวสังคมท้องถิ่นและบ้านเมือง ในยามที่โรงเรียนเริ่มล้นเกินจนต้องคิดปิดกันบ้าง โรงเรียนอย่าง"มีชัยพัฒนา" ต้องเปิดให้เยอะๆ เปิดทุกภาค เปิดทุกจังหวัด
บ่ายวันนั้นจบลงด้วยความปลาบปลื้มยินดีของทุกฝ่าย คุณมีชัยท่านนำเด็กมาขอบคุณมหาวิทยาลัยที่รับเข้ามาเรียนพร้อมให้ทุนการศึกษา นำเรื่องดีๆมาเล่าเผื่อผมและ ม.รังสิต จะรับเอาไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ต่อไป
แหละนี่ก็คือตัวอย่างการปฏิรูปการศึกษาที่เป็นเลิศ จาก คุณมีชัย วีระไวทยะ ผู้สูงวัย สูงด้วยวุฒิ แปดสิบหรือจวนแล้วกระมัง และยังสูงล้ำด้วยความสร้างสรรค์ สำหรับบ้านเมือง สำหรับคนรุ่นใหม่