คาดคดี"บ้านเอื้ออาทร"เข้าป.ป.ช.ใหญ่เดือนหน้า
เลขาฯป.ป.ช.เผยคดี"บ้านเอื้ออาทร"ข้อเท็จจริงครบแล้ว ระบุติดเรื่องข้อกฎหมาย คาดเดือนหน้าเสนอป.ป.ช.วินิจฉัย "ธ.ก.ส."คว้าแชมป์องค์กรโปร่งใส
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวกถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว ว่า ป.ป.ช.น่าจะวินิจฉัยได้แล้ว แต่เมื่อนายวัฒนา ยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมเข้ามาว่าป.ป.ช.ไม่เคยเรียกเข้าให้ข้อมูล จึงต้องนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ใกล้ได้ข้อสรุปในขั้นตอนการพิจารณาสำนวนแล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เนื่องจากคดีนี้ตั้งเรื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ก่อนส่งถึงอัยการสูงสุด (อสส.) แล้วตีกลับมาที่ป.ป.ช. จึงต้องหารือถึงกระบวนการร่วมกับ อสส. แต่ข้อเท็จจริงในสำนวนนั้นครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้คาดว่าเรื่องนี้น่าจะจบเดือน ต.ค.นี้ สามารถเสนอต่อที่ประชุมป.ป.ช.เพื่อวินิจฉัยได้
"เรื่องนี้มีแนวโน้มว่าอสส.จะสั่งฟ้องสูงเพราะเมื่อป.ป.ช.ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม อสส. ก็รู้สึกพอใจ ก็ต้องดูขั้นตอนที่เขาจะสั่งคดี ที่ยังขาดขั้นตอนของเราที่ต้องสั่งคดีให้ครบกระบวนการสั่งฟ้องก่อน ซึ่งจะมีการหารือกันอีกเล็กน้อยว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร จะสั่งฟ้องพร้อมกันทั้งหมด หรือไปแค่บางส่วนก่อน เป็นขั้นตอนของกฎหมาย" นายสรรเสริญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป.ป.ช. เผยแพร่เอกสารเรื่องผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ 2559 ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับการประเมินจากสำนักงานป.ป.ช.ทั้งสิ้น 115 แห่ง โดย 5 อันดับหน่วยงานที่ได้คะแนนการประเมินมากที่สุดได้แก่ 1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ได้ 96.02 คะแนน 2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ 94.50 คะแนน 3.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ 91.41 คะแนน 4.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ 90.79 คะแนน 5.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ 90.39 คะแนน อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้สำนักงานป.ป.ช. จะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินดังกล่าวขึ้น แต่เมื่อนำมาประเมินหน่วยงานของตัวเองกลับถูกประเมินอยู่ในอันดับที่ 100 ได้เพียง 73.52 คะแนนเท่านั้น
โดยนายสรรเสริญ กล่าวว่า เราไม่ได้ตกใจกับผลประเมินที่ออกมา เพราะเรารู้อยู่ก่อนแล้ว แต่เราไม่ได้เตรียมนัดแนะกับหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องภายในว่าต้องเตรียมถูกประเมินอะไรบ้าง ดังนั้น เมื่อมีการประเมิน จึงถือว่าวัดผลได้จริง และเป็นผลดีกับเราที่ทำรู้ตัวเองว่าความจริงขณะนี้เราเป็นอย่างไร อาจมีส่วนว่าคะแนนที่สะท้อนการประเมินสำนักงานป.ป.ช.อาจไม่โปร่งใส เป็นต้นว่าการขอทราบความคืบหน้าของคดี หรือการขอสืบค้นสำนวนคดีต่างๆ ว่าการเปิดเผยข้อมูลยังไม่ดีพอ แต่เรื่องคดีเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เปิดเผยลำบาก เนื่องจากมีข้อจำกัด ถ้าไปกระทบถึงบุคคลอื่น คนให้ข้อมูลหรือคนที่กล่าวหาจะเดือดร้อน แต่ก็จะพยายามให้มีการเปิดเผยให้มากกว่านี้
ขอบคุณข่าวจาก