ปธ.สภา ลั่นมีอำนาจตัดสินย้ายที่ก่อสร้างสภาใหม่หรือไม่
"สมศักดิ์" ลั่นมีอำนาจตัดสินย้ายที่ก่อสร้างสภาใหม่หรือไม่ ด้าน รองปธ.วุฒิข้องใจ กก.เร่งรัดฯทำเรื่องหารือกรมบัญชีกลาง
วันนี้(20ม.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าขณะนี้ตนได้รับรายงานของคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดโครงการก่อ สร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานฯ ที่เสนอความเห็นให้ย้ายพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียด สำหรับข้อเรียกร้องของสมาชิกรัฐสภา ที่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภานั้น ข้อเท็จจริงตนมีอำนาจตัดสินใจได้ทันที หากเห็นว่าไม่ย้ายเรื่องก็จบเพียงเท่านั้น แต่หากตนมีความเห็นว่าจะย้าย ตนจะนำเข้าสู่การรือในที่ประชุมร่วมรัฐสภา
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาโครงการและควบคุมงานก่อ สร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการติดตามฯ ของสภาฯได้ทำหนังสือปรึกษาไปยังกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับประเด็นความถูกต้องของการคัดเลือกผู้ที่มีมีคุณสมบัติเบื้องต้นใน การประกวดราคาจ้าง(พีคิว) ไว้ล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่ได้มีการกำหนดราคากลางก่อสร้าง ว่า ประเด็นนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำหนังสือสอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง เพราะหากทางกรรมการผู้ตรวจสอบคุณสมบัติฯ เห็นว่าไม่ถูกต้อง หรือ ต้องการเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขัน สามารถยกเลิกบริษัทที่ได้ทำพีคิวไว้ล่วงหน้าได้ทันที เพราะในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ระบุไว้ชัดเจนว่าทำได้ โดยบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกดังกล่าวไม่สามารถฟ้องร้องหน่วยงานรัฐสภา หรือ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องได้
“เรื่องนี้ทำได้ทันที ไม่ต้องถามกรมบัญชีกลางใดๆ ทั้งสิ้น ยกเลิกไปเลย เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการ เมื่อยกเลิกแล้ว ก็เขียนข้อกำหนดใหม่ เพื่อเปิดทางให้บริษัทอื่นเข้ามาร่วมประมูล ลดสเปคที่ล็อคไว้ หากทำได้อาจจะได้ 20-30 บริษัทเข้ามา แต่ทำไมเขาถึงไม่ทำ นั่นอาจเป็นเพราะว่า เขาควบคุมไม่ได้ การส่งเรื่องถึงกรมบัญชีกลาง ผมมองว่าเพื่อยื้อเวลาและหาเรื่องย้ายที่ก่อสร้างสภาใหม่” นายนิคม กล่าว. 
