กทม.รื้อ27ชุมชนรุกเจ้าพระยา เร่ง144โครงการ 1ปี กันท่วมธน-ดอนเมือง

แผนเร่งด่วนสู้น้ำ55 กทม.วาง 3 มาตรการ ซ่อมเสริมคัน-เพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ-ตั้งระบบเตือนภัย โฟกัสจุดเสี่ยง  ป้องชุมชน-พื้นที่เศรษฐกิจ ปูพรม 144 โครงการ หลังรัฐอนุมัติ 1.9 พันล้าน ด้าน กทม.ไม่การันตีไม่ท่วม

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตใน กทม. กำลังดำเนินการลอกท่อระบายน้ำและคลองต่าง ๆ ทั้งสายหลักและสายย่อยอย่างเร่งด่วน เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกขึ้น เตรียมรับมือหน้าฝนที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะเร่งดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จำเป็นก่อน เช่น พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและน้ำท่วมขังนานในครั้งที่ผ่านมา เช่น บริเวณเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา เป็นต้น

รวมถึง พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ 27 ชุมชน และพื้นที่ยังเป็นฟันหลออยู่ 2 กิโลเมตร (ช่วงคลองบางกอกน้อย) จะเร่งเสริมคันกั้นน้ำ ทั้งนี้ ในช่วงที่รองบประมาณจากรัฐบาลที่จะจัดสรรให้ วงเงิน 1,964 ล้านบาท เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะเร่งด่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2555 นี้ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมจัดทำรายละเอียดโครงการต่าง ๆ และสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดซื้อ จัดจ้าง เมื่อได้รับงบประมาณจะเดินหน้าแต่ละงานได้ทันที แผนเฉพาะหน้าตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม กทม.จะต้องคาดการณ์แผนรับมือในแบบ Worst Case ไว้ล่วงหน้าด้วย

ขณะเดียวกัน ทุกแผนงานจะสอดคล้องกับมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวของคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เพื่อเตรียมการรองรับปัญหาน้ำท่วมเร่งด่วนในปี พ.ศ. 2555 โดยใช้งบประมาณของรัฐบาล 1,964 ล้านบาท ดำเนินการ 3 ส่วนหลัก 144 โครงการ

ซ่อมแนวป้องกันฝั่งธนฯ

ส่วนแรก เป็นงานซ่อมแนวป้องกันน้ำท่วมและเสริมคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคันกั้นน้ำพระราชดำริด้านตะวันออก 931 ล้านบาท แยกเป็นงานซ่อมแนวป้องกันน้ำท่วมและเสริมความแข็งแรงคันกั้นน้ำริมแม่น้ำ เจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ที่พังและชำรุดเสียหาย ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี 5 แห่ง 113.4 ล้านบาท คือริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปลายซอยจรัญสนิทวงศ์ 74/1 ระยะทาง 145 เมตร บริเวณโรงฟอกหนัง 176 เมตร ริมคลองบางกอกน้อย ช่วงปากคลองบางกอกน้อย-คลองมหาสวัสดิ์ 4,900 เมตร บริเวณข้างสถานีดับเพลิงบางขุนนนท์ 10 เมตร และริมแม่น้ำเจ้าพระยา อู่เรือหะริน 80 เมตร

เพิ่มความสูงคันกั้นน้ำ 20-50 ซม.

เสริมคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ ความยาวรวม 155.465 กิโลเมตร วงเงินกว่า 818 ล้านบาท เนื้องานมีเพิ่มความสูงคันกั้นน้ำช่วง "แม่น้ำเจ้าพระยา" จากช่วงคลองบางเขน-สะพานกรุงธน จากเดิม 3 เมตร เป็น 3.50 เมตร ช่วงสะพานพุทธ-สะพานพระปิ่นเกล้า จาก 2.80 เมตร เป็น 3.25 เมตร ช่วงสะพานปิ่นเกล้า-สะพานพุทธ จาก 2.80 เมตร เป็น 3 เมตร และช่วงสะพานพุทธ-สุดเขต กทม. จาก 2.50 เมตร เป็น 2.80 เมตร ส่วนคลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ 2.80 เมตร เป็น 3 เมตร

เสริมคันฝั่งพระนคร-ตอ.-ธนบุรี

ขณะ เดียวกัน จะเสริมคันกั้นน้ำฝั่งพระนคร 38.805 กิโลเมตร ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 3 ช่วง คือช่วงคลองบางเขนเก่า-สะพานพุทธ 12,500 เมตร ช่วงสะพานพุทธ-สะพานพระราม 9 ระยะทาง 10,800 เมตร ช่วงสะพานพระราม 9-กรมสรรพาวุธทหารเรือ 15,400 เมตร อีกทั้งปรับปรุงเขื่อน สถานีสูบน้ำคลองบางเขนใหม่ ประตูระบายน้ำคลองสามวา คลองพระยาสุเรนทร์ คลองหม้อแตก คลองลำแบน คลองสี่ตะวันตก คลองสามตะวันตก และคลองสองตะวันตก

ด้านตะวันออก จะเสริมคันตามแนวพระราชดำริด้านตะวันออก โดยใช้กระสอบทรายและสร้างทำนบคันกั้นน้ำให้มีระดับสูงเกิน 3 เมตร 6 จุด

ส่วนฝั่งธนบุรี จะเสริมคันกั้นน้ำ 44.6 เมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 5 จุด อีกทั้งเสริมบานประตูระบายน้ำและผนังกั้นน้ำ ริมคลองมหาสวัสดิ์ ช่วงคลองบางกอกน้อย-ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงสะพานพระราม 7-คลองมอญ และช่วงคลองมอญ-คลองบางจาก

เร่งขุดลอก 29 คลอง ตอ.-ตต.

ส่วน ที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ วงเงินกว่า 1,010.3 ล้านบาท มี 6 งาน คือขุดลอกคลองสายหลัก 29 คลอง ความยาว 154.25 กิโลเมตร วงเงิน 67.8 ล้านบาท ในฝั่งตะวันออก 16 คลอง 75.50 เมตร ส่วนฝั่งตะวันตก 13 คลอง 78.75 กิโลเมตร

ซื้อเครื่องดันน้ำ-สูบน้ำ 100 ตัว

ติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำไฟฟ้าแรงดันสูง 25 เครื่อง วงเงิน 65.75 ล้านบาท ติดที่คลองฝั่งตะวันตก 10 คลอง 16 เครื่อง และฝั่งตะวันออก 7 คลอง 9 เครื่อง

งานติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำดีเซล 29 เครื่อง วงเงิน 101.5 ล้านบาท ฝั่งตะวันตก 9 คลอง 28 เครื่อง และฝั่งตะวันออก 1 คลอง 1 เครื่อง

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าชนิดจุ่ม 52 เครื่อง วงเงิน 252.4 ล้านบาท

ติดระบบเตือนภัย 15 คลอง

อีกทั้งะเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำ เช่น ที่พระราม 4 ซ่อมเปลี่ยนตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าและซ่อมแซมสถานีสูบน้ำคลองชักพระ เป็นต้น สร้างระบบระบายน้ำคลองศรีสำราญ จากถนนเศรษฐกิจ-คลองภาษีเจริญ วงเงิน 191.22 ล้านบาท

และส่วนที่ 3 สร้างระบบเตือนภัย ติดตั้งเครื่องวัดอัตราการไหลของน้ำ 15 คลอง ในฝั่งตะวันออก 11 คลอง และฝั่งตะวันตก 4 คลอง วงเงิน 22.5 ล้านบาท

ไม่การันตีว่าจะไม่ท่วมอีก

"การ ทำงานโครงการทั้งหมดนี้จะช่วยป้องกันน้ำท่วมได้ระดับหนึ่งตามที่ออกแบบไว้ โดยยึดเหตุการณ์ปี 2554 ที่ผ่านมามาดูด้วย หากเกินจากนี้ต้องยอมรับสภาพ แต่ กทม.ก็ต้องทำดีที่สุด ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าปริมาณน้ำไม่มากกว่าปีที่ผ่านมา ก็น่าจะป้องกันได้ แต่การแก้ไขปัญหาไม่ใช่ กทม.ฝ่ายเดียว อยู่ที่หลายภาคส่วนต้องช่วยกันด้วย"

เช่น เดียวกัน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ 100% ว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ อีกหรือไม่ แต่ถ้าจัดการบริหารดี ๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ เป็นสัญญาณที่ดีว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา

ขู่งานไม่เดินเรียกคืน 1.9 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม.ซึ่งนาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ใน กทม. 12 แนวทาง พร้อมกับอนุมัติเงินงบประมาณ 1,964 ล้านบาท สำหรับให้ กทม.นำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำในปี 2555 ด้วย

ก่อนหน้าที่จะมีการ อนุมัติเงิน 1.94 พันล้านบาท ให้ กทม.นำไปป้องกันแก้ไขน้ำท่วมเร่งด่วนในปีนี้ ได้เกิดข้อขัดแย้งระหว่าง กทม.กับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี จนมีกระแสข่าวรัฐจะดึงงบฯก้อนดังกล่าวกลับ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ มองว่า กทม.ไม่เร่งหาทางป้องกันแก้ไขน้ำท่วมอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ต้องการใช้งบฯเป็นเครื่องมือหาเสียง ขณะที่ผู้บริหาร กทม.ก็มองว่า รัฐพยายามยื้อไม่ยอมอนุมัติงบฯให้

อย่างไรก็ตาม แม้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ กทม.ซึ่งนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน จะอนุมัติงบฯดังกล่าวแล้ว แต่ก็ตั้งข้อแม้ว่า หาก กทม.ดำเนินการโครงการ 144 โครงการไม่แล้วเสร็จ ก็จะเรียกเงินคืน

รื้อย้าย 27 ชุมชนรุกเจ้าพระยา

ขณะ เดียวกัน กทม.ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน ให้สร้างสถานีสูบน้ำคลองเปรมประชากรเพื่อสูบน้ำคลองรังสิต ย้ายสถานีสูบน้ำจุฬาภรณ์ไปอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์จากคลองทวีวัฒนา-แม่น้ำ ท่าจีนที่ระดับสูงเกิน 3 เมตร เพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์ลงสู่แม่น้ำท่าจีน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำประตูระบายน้ำคลองฉิมพลีสูบออกแม่น้ำเจ้าพระยา

อีกทั้งขอให้กรมทางหลวง ขยายคลองพระยาสุเรนทร์ตรงจุดตัดถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก ขยายท่อลอดหรือสะพานจุดตัดถนนรามอินทรา สุวินทวงศ์ บางนา-ตราด ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ขยายสะพานที่ตัดคลองในพื้นที่ กทม.ให้มีช่องน้ำเท่าคลองเดิม

ส่วนกรมเจ้าท่า ให้รื้อย้ายบ้านรุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย ทั้ง 27 ชุมชน จำนวน 1,273 ครัวเรือน เพราะกีดขวางทางระบายน้ำ เช่น ชุมชนมิตคาม วัดเทวราชกุญชร และให้ขุดลอกลำน้ำและสันดอนแม่น้ำท่าจีน เจ้าพระยาและบางปะกง .