แอบอ้าง 'ราชนิกุล' ได้เงินแสน พาลัดคิวกราบพระบรมศพฯ
รวบ 'แม่ค้าออนไลน์' ตามหมายจับ สารภาพแอบอ้าง 'ราชนิกุล' 3 ครั้งได้เงินแสน พา 17 คนลัดคิวเข้าวัง ร่วมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล พร้อมด้วย ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต เข้าลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง หลังพบว่ามีบุคคลแอบอ้างใช้ชื่อ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อคืนวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ สน.พระราชวัง พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.พรชัย เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.พระราชวัง, พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย บุญเพ็ง รองผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน สน.พระราชวัง, พ.ต.ท.อภิวัฒน์ ชินภูมิวสนะ รองผกก.สส.สน.พระราชวัง เข้าร่วมประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง
ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้นำตัว น.ส.อโนทยาพัฒน์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.พระราชวัง ก่อนจะรอ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. มาสอบปากคำด้วยตนเอง และให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนที่มารอบันทึกภาพทำข่าวภายหลังสอบปากคำแล้วเสร็จ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากม.ร.ว.แม้นนฤมาส เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจได้สืบจนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุแอบอ้างเป็นม.ร.ว.แม้นนฤมาส นั้นคือ น.ส.อโนทยาพัฒน์ อายุ 27 ปี ชาว กทม. จึงเชิญมาให้ปากคำ ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.อโนทยาพัฒน์ รับสารภาพว่า ตนได้ลงลายมือชื่อแอบอ้างกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังว่าเป็น ม.ร.ว.แม้นนฤมาส จริง เพื่อให้ได้เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและนำบุคคลอื่นเข้าไปอีก 12 คน ต่อมาตำรวจจึงเชิญพยานบางรายมาให้ข้อมูลแล้วทำให้พบว่าน.ส.อโนทยาพัฒน์ มีความผิดจริง
รายงานข่าวระบุอีกว่า นอกจากนี้พฤติการณ์ของ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ยังเป็นลักษณะฉ้อโกง เรียกรับเงินเพื่อแลกกับพาเข้าร่วมพระราชพิธี รวมทั้งอ้างว่าสั่งจองเหรียญที่ระลึกดัวย โดยตำรวจสืบจนทราบว่า น.ส.พัชรวดี (สงวนนามสกุล) หลานสาวของ นางพาเพลิน (สงวนนามสกุล) ซึ่งตกผู้เสียหายที่ถูก น.ส.อโนทยาพัฒน์ ได้มาบอกกับผู้เสียหายว่า น.ส.อโนทยาพัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนนั้นสามารถที่จะพาเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ภายในพระบรมมหาราชวัง
โดย สามารถเข้าไปร่วมฟังพิธีสวดพระอภิธรรม พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ในระยะใกล้กว่าบุคคลทั่วไป และไม่ต้องรอคิวเป็นเวลานานเหมือนบุคคลทั่วไป ผู้เสียหายและครอบครัวรวม 3 คนสนใจจึงติดต่อไปยัง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ซึ่ง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ระบุว่า ต้องเสียค่ารถจำนวน 5,500 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินให้ จากนั้นจึงนัดเจอกัน โดยทาง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ระบุว่าสามารถสั่งเหรียญที่ระลึกงานพระราชพิธีพระบรมศพได้ โดยคิดค่าสั่งจองจำนวนชุดละ 3,500 บาท จึงสั่งจองไป 15 ชุด เป็นเงิน 52,500 บาท
กระทั่ง วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. น.ส.อโนทยาพัฒน์ได้โดยสารรถตู้ทะเบียน ฮท 8746 กรุงเทพมหานคร มารับกลุ่มผู้เสียหายที่บ้านพัก ผู้เสียหายจึงจ่ายเงินค่าจองเหรียญที่ระลึกจำนวน 52,500 บาท และนั่งรถตู้คันดังกล่าวไปยังพระบรมมหาราชวัง ก่อนที่น.ส.อโนทยาพัฒน์ จะพากลุ่มผู้เสียหายไปยังเต็นท์ที่ระบุว่า เฉพาะสมาชิกราชสกุล จากนั้น น.ส.อโนทยาพัฒน์ก็ได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก่อนที่น.ส.อโนทยาพัฒน์ จะลงชื่อลำดับที่ 2 โดยใช้ชื่อว่า “น.ส.แม้นนฤมาส ยุคล” พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมายังกลุ่มผู้เสียหายพบว่า ไม่มีใครเป็นสมาชิกราชสกุล จึงถูกเชิญตัวออกจากเต็นท์ดังกล่าว ซึ่งทางผู้เสียหายจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปบ้านทันที
โดย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เสียไปเป็นจำนวน 58,000 บาท และไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ รวมทั้งไม่ได้เข้าไปในพระที่นั่งพระสวดพระอภิธรรมในระยะใกล้แต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ผู้เสียหายเห็นสื่อลงข่าวว่า ม.ร.ว.แม้นนฤมาส มาลงบันทึกประจำวันว่าถูกสวมรอยเซ็นชื่อ เพื่อเข้าไปภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จึงทราบทันทีว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ผู้เสียหายไป จึงตัดสินใจเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ก่อนที่วันนี้ (24 พ.ย.) ศาลจะอนุมัติออกหมายจับ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ที่ 2314/2559 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น
ขณะที่ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.พระราชวัง ได้ร่วมกันแถลงจับกุม น.ส.อโนทยาพัฒน์ ในคดีดังกล่าวตามพยานหลักฐาน
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวาน (23 พ.ย.) มีผู้เสียหายที่อยู่ในที่เกิดเหตุเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ จึงนำไปสู่การขอศาลอนุมัติออกหมายจับ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ดังกล่าว โดยในวันนี้ (24 พ.ย.) ได้มีกลุ่มผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
ด้าน น.ส.อโนทยาพัฒน์ กล่าวว่า ตนรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำมาทั้งหมด 3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 22 พฤศจิกายน และ 23 พฤศจิกายน มีผู้เสียหาย 17 ราย มูลค่าเงินที่เรียกรับมารวมกว่า 100,000 บาท โดยครั้งแรกตนเริ่มจากการแอบเดินตามสมาชิกในราชสกุลเข้าไปภายใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกต เนื่องจากตนทำทีว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกราชสกุล ก่อนจะเห็นช่องทาง กระทั่งก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อนแล้ว จึงง่ายในการพูดให้หลงเชื่อ ซึ่งตนขอยอมรับผิด และขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป อยากให้นำกรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรนำเรื่องของเบื้องบนมาแอบอ้างจนเกิดความเสียหาย ซึ่งหากใครอยากเข้าสักการะพระบรมศพขอให้เข้าตามขั้นตอน ไม่ลัดคิวผู้อื่น
“สำหรับรายละเอียดวิธีการก่อเหตุนั้น ขอเปิดเผยกับตำรวจเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว และเริ่มก่อเหตุครั้งแรกเมื่อวันที่ 27ตุลาคม ส่วนคนขับรถตู้ที่ใช้รับ-ส่งผู้เสียหายนั้น ไม่ได้มีรู้เห็นกับการกระทำของดิฉัน เป็นเพียงรถตู้ที่จ้างมาเท่านั้น ทั้งนี้ดิฉันมีอาชีพขายของออนไลน์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระบรมมหาราชวังแต่อย่างใด ส่วนเงินที่ได้จากผู้เสียหายจำนวน 100,000 บาทนั้น ดิฉันยังไม่ได้นำไปใช้จ่ายแต่อย่างใด”น.ส.อโนทยาพัฒน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้เสียหายในเรื่องดังกล่าว บอกว่า ตนเป็นอยู่เสียหายกลุ่มที่ 3 ที่กำลังจะได้เข้าสักการะบรมศพในวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่เกิดเหตุในวันที่ 22 พฤศจิกายน ขึ้นเสียก่อน ซึ่งตนและผู้ต้องหาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นประถม โดยผู้ต้องหาบอกกับตนว่าสามารถพาเข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาม เพื่อฟังสวดพระอภิธรรมได้ ตนจึงหลงเชื่อ เพราะผู้ต้องหาเคยระบุว่ามีอาเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ พร้อมทั้งนำภาพถ่ายที่เดินจูงมือกับหลานของหม่อมเจ้าท่านหนึ่ง (ไม่ขอเปิดเผย) มาให้พวกตนดู รวมทั้งเคยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับงานพระราชพิธีได้อย่างละเอียด พวกตนจึงหลงเชื่อ ทำให้ตนจ่ายเงินให้ผู้ต้องหาไป 47,500 บาท เพื่อที่ครอบครัวของตน ทั้ง 12 คน จะได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวัง โดยแบ่งเป็นค่ารถ 5,500 บาท และค่าสั่งจองเหรียญที่ระลึกอีก 12 ชุด ชุดละ 3,500 บาท รวม 42,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ต้องหาและพยาน เพื่อขยายผลว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ ซึ่งหากพบก็จะดำเนินคดีทันที
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/728983
ขอบคุณข่าวจาก

