ศธ. คาดแท็บเล็ตเครื่องละ 2,400 บาท พ.ค.นี้ถึงมือนักเรียนกลุ่มแรก

ปลัด ศธ.เผยเนื้อหาหลักสูตรการเรียน การสอนที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนชั้นป. 1 พร้อมบรรจุในแท็บเล็ตเรียบร้อยแล้ว มอบ SIPA ไปดำเนินการ ขณะที่ ไอซีที เร่งสำรวจเตรียมความพร้อมในเรื่องสัญญาณ Wi-Fi

เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน (One Tablet One per Child) โดยคาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ อาจจะยังได้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตไม่ครบทั้งหมด เพราะจะต้องใช้เวลาผลิตถึง 4 เดือน จึงต้องทยอยแจกนักเรียนตามความพร้อม ถ้านักเรียนคนใดที่ยังไม่ได้รับ ก็ต้องเรียนกับหนังสือไปก่อน

สำหรับหลักการในการแจก รมว.ศธ.กล่าวว่า จะมอบให้กับนักเรียนไปเลย โดยไม่ต้องนำมาคืนเมื่อหมดปีการศึกษา เพราะคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตที่จะซื้อมีราคาเพียง 2,400 บาท ใช้เพียง 3 ปีก็จะกลายเป็นแค่พลาสติกแล้ว และถ้าจะต้องจัดซื้อใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณอีก 3,000 ล้านบาท ก็ถือเป็นงบประมาณเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการซื้อเรือรบ

สำหรับเนื้อหาหลักสูตรการเรียน การสอนที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ซึ่งมีดร.โอฬาร ไชยประวัติ จะเป็นประธานในการจัดทำหลักสูตร เพื่อจะบรรจุในแท็บเล็ตจนถึงขณะนี้นั้น นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมอบสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ไปดำเนินการ ประกอบด้วย

1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-book ซึ่งเป็นไฟล์.pdf ใน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และ 2. Learning Object จำนวน 350 หน่วย

ทั้งนี้ การบรรจุเนื้อหาทั้งหมดจะใช้พื้นที่ 4 GB โดยภาพรวมจะมีพื้นที่ความจำประมาณ 8 GB ดังนั้นจะยังมีพื้นที่ความจำเหลือพอที่จะพอให้นักเรียนได้ทำการบ้านหรือบรรจุหลักสูตรด้านคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารลงไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ได้หารือเพื่อเตรียมพร้อมในเรื่องสัญญาณ Wi-Fi ซึ่ง ศธ. โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ทำการสำรวจเส้นรุ้ง เส้นแวงของทุกโรงเรียนในทุกสังกัดของประเทศไทย ทั้งสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รวมถึงศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องของการรับสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยจะแบ่งสถานศึกษา ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีความพร้อมทุกด้านรวมถึงอินเตอร์เน็ตที่พร้อมใช้งาน

กลุ่มพื้นที่สีเหลือง มีไฟฟ้า มีห้องเรียน มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตแต่ไม่แรงมาก หรือยังไม่มีระบบอินเทอร์เน็ต จะต้องทำการเพิ่มสัญญาณให้ก่อน

และกลุ่มพื้นที่สีแดง คือ อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีไฟฟ้าใช้และไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งกลุ่มนี้มีประมาณ 200 โรง จึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจจำนวนโรงเรียน ทุกสังกัดว่าจะอยู่ในแต่ละกลุ่มกี่โรง เพื่อจะได้จัดแผนการดำเนินการที่ชัดเจน เนื่องจากการจัดส่งแท็บเล็ตนั้นจะต้องทยอยส่งโดยจะดำเนินการส่งใน 3 ช่วง ช่วงแรกคาดว่าจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม โดยกลุ่มพื้นที่สีเขียวซึ่งมีความพร้อมมากที่สุดจะได้รับไปก่อน และทยอยดำเนินการจัดส่งไปยังกลุ่มอื่นๆ ต่อไป พร้อมกันนี้ ยังต้องไปสำรวจในพื้นที่ด้วยเพื่อเตรียมการในเรื่องของการดูแลซ่อมแซมกรณีที่แท็บเล็ตเสียหายด้วย