ข้อสังเกตเปิดเสรีการค้าอาเซียนไทยพร้อมหรือยัง?
44 ปีสำหรับการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน องค์กรความร่วมมือเศรษฐกิจภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ประชากรรวม 620 ล้านคนได้มีความพยายามร่วมมือด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (FTA) การเปิดเขตการค้าเสรีกับจีน
และประกาศว่าจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในอีก 3 ปีข้างหน้า ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ
โดยการประกาศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียน ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญคือการเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรีและเงินลงทุนที่เสรีมากขึ้น
ประเทศไทยในฐานะที่ในอดีตที่ผ่านมาได้เคยพัฒนาประเทศไปไกลในด้านเศรษฐกิจจนมีความพร้อมก็น่าจะได้ประโยชน์จาก AEC
การจะได้ประโยชน์จากการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ AEC ประเทศไทยต้องพัฒนาทั้งระบบอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การบริหารจัดการของภาครัฐ ทรัพยากรมนุษย์ กฎหมายที่จะมารองรับ การสื่อสาร ICT การศึกษา ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ แม้แต่เรื่องของทัศนคติของคนไทยที่เกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ ในการที่จะออกไปลงทุน ประกอบอาชีพในต่างประเทศ ซึ่งมีขอบเขตที่กว้างมากขึ้น
ตรงนี้จึงเป็นประเด็นที่ AEC น่าจะมาช่วยกระตุ้นให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข การบริหารราชการให้พร้อมที่จะรองรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้คนในอาเซียน 620 ล้านคนสามารถเข้ามาทำธุรกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และเปิดโอกาสให้คนไทย 62 ล้านคนไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในอาเซียนได้สะดวกขึ้น ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงงาน ต้องจัดทำคู่มือขึ้นมาเลยว่า จะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง การเข้าร่วมกับ AEC มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อให้คนไทย 62 ล้านคนได้ตระหนักรู้ในเรื่อง AEC
วันนี้บริษัทที่จะไปค้าขายในอาเซียนสามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้นเพราะได้ประโยชน์ในเรื่องภาษี บริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น ปตท. เอสซีจี ซี.พี. ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะในทางปฏิบัติบริษัทเหล่านี้มีศักยภาพและความสามารถในการไปลงทุนและค้าขายในอาเซียนอยู่แล้ว แต่ที่เป็นห่วงคือการกระตุ้นให้คนไทยไปลงทุน ไปค้าขายในต่างประเทศ โดยอาศัยประโยชน์จากการลดอัตราภาษีและมาตรการอื่นๆที่เปิดรองรับคนในอาเซียนไปทำธุรกิจอย่างเต็มที่ เพราะถ้าคนไทยไม่ก้าวออกไปก็จะไม่ได้ประโยชน์จาก AEC เช่น นักกฏหมายอาจจะถือโอกาสนี้ไปทำธุรกิจบริการในอินโดนีเซีย เป็นต้น
มาตรการของ AEC เป็นเสมือนการขยายรางรถไฟให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้รถไฟวิ่งได้เร็วขึ้น รับน้ำหนักได้มากขึ้น ดังนั้นประเทศไทย จึงต้องปรับปรุงให้มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะวิ่งบนรางขนาดใหญ่ ในระดับความเร็วที่สูงขึ้น
หากสำรวจความพร้อมของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ AEC ในวันนี้จะพบว่า สิงคโปร์ มาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงตัวเองอย่างรอบด้าน ดึงสิ่งดีๆจากทั่วโลกมาสร้างให้เกิดประโยชน์กับประเทศ จนวันนี้ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวสิงคโปร์ทั้งๆ ที่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่มีคนอยู่ไม่กี่ล้านคน แต่สิงคโปร์ได้พัฒนาที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ขนาดใหญ่ เปลี่ยนบ่อนคาสิโนให้เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิง
ที่น่าสนใจวันนี้สิงคโปร์นอกจากจะเป็นแหล่งธุรกิจบริการแล้ว ประเทศเล็กๆแห่งนี้ยังพัฒนาประเทศให้เป็นแหล่งวิจัยไบโอเทคโนโลยีด้านสุขภาพอนามัย และล่าสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจมหภาคเอาเซียน+3 (The ASEAN Plus Three Macroeconomic Research:AMRO) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศยังได้ใช้ประเทศสิงคโปร์เป็นฐานที่ตั้ง ดังนั้นต่อไปข้างหน้าการเงินของสิงคโปร์จะแข็งที่สุด ระบบเศรษฐกิจจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
มาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประทศที่มีการพัฒนาด้านแมนูแฟกเตอร์ริ่งที่ไปไกลมาก ในขณะเดียวกันก็เข้าไปดำเนินธุรกิจในภาคบริการอื่นๆ ด้วย เช่น สายการบินแอร์เอเชีย ธนาคารซีไอเอ็มบี ที่ปัจจุบันไปทั่วภูมิภาคนี้แล้ว
ข้อมูลจาก : http://www.cpthailand.com
