ครม.อนุมัติตั้งคกก. 3 ชุดบริหารน้ำแบบเบ็ดเสร็จ

มติ ครตั้งองค์กรบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เป็นศูนย์กลางเพื่อความคล่องตัว ระบุส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ท้องถิ่นต้องปฏิบัติตามทุกแห่ง ทุกพื้นที่โดยสอดคล้องกัน
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกนารีสโมสรทำเนียบรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ในเรื่องรูปแบบองค์กรบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (Single Command Authority) และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย 1.คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) ซึ่งมีหน้าที่ระดับนโยบายการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มีหน้าที่กำหนดนโยบาย การจัดทำแผนปฏิบัติการบริหารจัดการน้ำ โดยมีคณะกรรมการกยน.เป็นที่ปรึกษา
2.คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) มีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการและดำเนินการอื่นๆ ตามนโยบายของกนอช. สั่งการให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามแผน กำกับดูแลและติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง โดยมีรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่นายกฯ มอบหมายเป็นประธานกรรมการ 3.สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (สนอช.) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้กับ กบอ. (ดูตารางประกอบ)
นางฐิติมา กล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) สามารถแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปี 2554 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ พ.ศ. … คือ การจัดให้มีองค์กรหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะศูนย์กลางหลักในการบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอุทกภัยทั้งระบบ เพื่อให้การกำหนดแนวทางการทำงาน การสั่งการ และการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วมีความสอดคล้องในการอำนวยการและบริหารจัดการ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งนำไปปฏิบัติในทุกพื้นที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
“การจัดตั้งองค์กร ประกอบด้วย คณะกรรมการและสำนักงาน และกำหนดวิธีการบริหารงานที่ทำให้มีความคล่องตัวที่จะปฏิบัติงานได้โดยรวดเร็ว นอกจากนี้ ได้กำหนดวิธีปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น ที่ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่องค์กรได้กำหนด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำ การเตรียมป้องกัน และการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน และสามารถผลักดันให้มีการดำเนินการตามแผนงาน”
ทั้งนี้ ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดอุดรธานี ในระหว่างวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ครม.รับทราบปัญหาและติดตามผลการดำเนินงานโครงการของภาครัฐในระดับพื้นที่ เช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บและการระบายน้ำ การขุดแก้มลิงขนาดใหญ่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว การก่อสร้าง ทางจราจรและพัฒนาเส้นทางคมนาคม ตลอดจนการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) โดยจะมีการหารือถึงข้อเสนอแนะในเรื่องของการพัฒนาและแก้ปัญหาในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชนรวม 12 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ หนองคาย บึงกาฬ เลย มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
อ่าน ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ พ.ศ... คลิกที่นี่
