สตง.ให้ปตท.คืนท่อก๊าซ เปลี่ยนเป็นเช่า ยุติคดี "รสนา" โวยอุ้มกลุ่มทุน
คลัง สรุป ให้ปตท.คืนท่อก๊าซ 3.2 หมื่นล. เปลี่ยนตัวเลขบัญชีเป็นทรัพย์สินประเภทเช่า เชื่อไม่กระทบฐานะการเงิน-หุ้น คาด รัฐได้ประโยชน์คืนพันล. ชง ครม.เห็นชอบ ก่อนแถลงยุติคดีที่ค้างในศาลปค. "รสนา" งง สตง.พอใจรัฐได้เพิ่มพันล. แต่ปตท.ได้ประโยชน์กว่า 3 แสนล.เตรียมดำเนินคดีม.157 กับ ผู้ว่าสตง.ฐาน อุ้มกลุ่มทุน ยัน ต้องตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ บริหารท่อ แก้ผูกขาด
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมีมติให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รมว.พลังงานและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทปตท. ดำเนินการให้มีการส่งมอบท่อก๊าซธรรมชาติที่ยังส่งคืนไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ว่า ได้มีการหารือระหว่างกระทรวงการคลังกับทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแล้วได้ข้อสรุปว่า จะมีการรายงานข้อมูลให้ครม.พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบในการแจ้งให้ปตท.ปรับแก้บัญชีทรัพย์สนให้ถูกต้องตามตัวเลขของ สตง.และต้องเสียค่าเช่าท่อย้อนหลังให้กับกรมธนารักษ์เพิ่มเตม โดยในอนาคตต้องชำระค่าท่อเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการคืนท่อด้วย อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบกับฐานะการเงินหรือหุ้นของ ปตท.
“ตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่สตง.ได้เสนอไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อรอเข้าที่ประชุมครม.ต่อไป ซึ่งสตง.จะติดตามผลในเรื่องนี้ หากครม.เห็นชอบตามข้อเสนอนี้สิ่งที่รัฐจะได้กลับคืนมาคือ ตัวเลขทางบัญชีที่จะต้องคำนวณค่าเช่าเพิ่มขึ้นย้อนกลับไปอดีตและในอนาคตเป็นเงินนับพันล้านบาท ส่วนมูลค่าท่อก๊าซ 3.2 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นตัวเลขทางบัญชีที่ไม่กระทบกับ ปตท.เพราะเพียงแค่แปลงในส่วนที่บันทึกทรัพย์สินมาเป็นประเภทเช่าเท่านั้น ตัวเลขจึงเท่าเดิมไม่กระทบกับตัวงบ กรมธนารักษ์ก็ไปเพิ่มทรัพย์สินของแผ่นดินเพิ่มขึ้นและคิดค่าเช่าเพิ่มด้วย ถ้าตกลงกันได้ก็ไปแถลงต่อศาลปกครองในคดีที่ค้างอยู่ เมื่อคู่กรณีตกลงกันได้ศาลคงไม่มีความเห็นอย่างอื่น เพราะไม่ได้เป็นเรื่องขัดคำสั่งศาลใด ๆ เนื่องจากศาลก็อยากให้ตกลงเจรจา ซึ่งก็เท่ากับจะยุติคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินฟ้องไปก่อนหน้านี้ด้วย เป็นข้อดีทำให้ไม่ต้องเสียเวลา” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ สตง. กล่าวว่า สตง.มีหน้าที่ให้กระทรวงการคลังทวงท่อก๊าซในทะเลที่ไม่ได้คืนให้กับรัฐ แต่การตกลงว่าให้เปลี่ยนรูปแบบเป็นการเช่าแค่ตัวเลขทางบัญชีนั้น สตง.น่าจะออฟไซด์ไป อยากให้กลับไปดูที่ปตท.คืนท่อก๊าซครั้งแรกปี 2551 มีการคืนท่อก๊าซมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านจ่ายเค่าเช่าย้อนหลังให้คลังประมาณ 1.5-1.6 พันล้านบาท แต่หลังการแปรรูปจนถึงวันที่คืนท่อก๊าซนั้น ปตท.ได้เงินค่าผ่านท่อประมาณ 1.16 แสนล้านบาท เมื่อคตง.ตรวจสอบแล้วพบว่าท่อก่อนการแปรรูต้องคืนเพิ่มยอด 3.2 หมื่นล้าน สตง.ก็ต้องทวงเงินช่วงต้นที่ปตท.ได้ไป 1.16 แสนล้านบาทคืนด้วยเพราะท่อทั้งหมดเป็นของรัฐ
“หลังจากมีการคืนท่อส่วน 1.6 หมื่นล้านกรมธนารักษ์ไปทำเอ็มโอยูให้ ปตท.เช่าโดยบอกว่าเป็นการแบ่งผลประโยชน์ทำเป็นขั้นบันไดจาก 440 ล้านถึง 550 ล้านต่อปี เมื่อดูตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ถึง 31 ธ.ค. 58 ปตท.จ่ายเงินค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ทั้งหมด 7,837 ล้านบาท แต่ปตท.เก็บค่าเช่าผ่านท่อในช่วงเวลาเดียวกันเป็นเงิน 356,108 ล้านบาท เท่ากับว่า ปตท.สร้างกำไรจากท่อที่เช่าจากรัฐถึง 40 เท่าจากที่ให้ประโยชน์คืนมาให้รัฐ ทำให้เห็นว่าการแบ่งปันผลประโยชน์ไม่แฟร์ เพราะค่าผ่านท่อคือภาระของประชาชนจากราคาแก๊สที่คนไทยต้องจ่าย
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า เมื่อปตท.แปรรูปแล้วก็เป็นเพียงรายหนึ่งที่มีสิทธิเช่า ไม่ใช่มาเช่าแล้วไปให้คนอื่นเช่าต่อ การที่สตง.กับคลังให้ทำสัญญาเช่าแบบนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นธรรมกับประชาชนหรือเปล่าเพราะจ่ายเงินให้รัฐปีละประมาณพันล้านแต่มีรายได้จากการบริหารจัดการท่อสูงกว่าที่รัฐได้ 40 เท่า เป็นเรื่องที่ชอบธรรมแล้วหรือ ซึ่งสตง.มีหน้าที่รับรองว่าคืนทรัพย์สินครบหรือไม่ ไม่ได้มีหน้าที่ไปแนะนำแบบนี้ ถ้าทำเช่นนี้ก็กลายเป็นว่าบ้านเมืองนี้ผู้มีอำนาจทางการเงินจะมีคนช่วยเพื่อไม่ให้หุ้นได้รับการกระทบ กระเทือน โดยให้แค่จ่ายค่าเช่าย้อนหลัง ทั้ง ๆ ที่ต้องทวงของเก่าที่ปตท.ไม่ควรได้กลับคืนมาเป็นของรัฐด้วย และเมื่อคืนท่อก๊าซแล้วรัฐต้องตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติมารับมอบทรัพย์สินทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องท่อก๊าซ โดยปตท.เป็นแค่รายหนึ่งที่มีสิทธิเช่าท่อก๊าซเท่านั้น จึงจะเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดที่ต้นเหตุและตรงตามเจตนารมณ์ของมติครม.เดิมก่อนที่จะมีการแปรรูป ปตท.
“เราจะหาช่องทางทักท้วงว่าทำไม่ถูก ที่บอกว่าไปแถลงยุติคดีกับศาลต้องถามว่าจบจริงหรือไม่ ผู้ว่าสตง.ทำแบบนี้อาจเจอ 157 ที่จะให้แปลงทรัพย์สินของรัฐเป็นประเภทเช่าแล้วจ่ายย้อนหลัง ทุกอย่างง่ายอย่างนี้หรือ สตง.ต้องทวงเงินก่อนหน้านี้ด้วยเพราะปตท.ใช้ประโยชน์จากท่อของรัฐรายได้ที่เขาเคยได้จึงไม่ใช่รายได้ที่ควรได้มาตั้งแต่ต้นต้องคืนรัฐ เจอกันแน่นอน สตง.ก็สตง.เถอะ ถามว่าบ้านเมืองจะอยู่อย่างไรเพราะเป็นการสมคบกันโดยรัฐกับเอกชนให้ปตท.ได้รับประโยชน์ต่อโดยไม่ได้รับผลกระทบ ถามว่ามีใครรับผิดชอบทางกฎหมายจากการกระทำผิดที่ผ่านมาบ้าง หรือว่าเกี้ยเซี๊ยเรียบร้อยแล้ว”น.ส.รสนา กล่าว
ขอขอบคุณข่าวจาก

