“กิจจา” ย้ำอ่างลุ่มน้ำยมจำเป็น ใครบอกช่วยได้น้อย “ไม่รู้จริง”
กิจจา ลงลึกแผนยั่งยืน มอบหมายกรรมการรับผิดชอบ ถามหน่วยงานรัฐข้อมูลพร้อมหรือยัง ชี้อ่างน้ำยมสร้างแน่ ขนาดเล็ก-ใหญ่ รอผลศึกษา เชื่อช่วยสถานการณ์น้ำดีขึ้น
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายกิจจา ผลภาษี ประธานอนุกรรมการวางระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวกับศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ ภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมคณะกรรมการฯ ในวันนี้เป็นการะบุรายละเอียดลงไปในแผนแม่บท 8 ข้อ ซึ่งได้มอบหมายให้กรรมการในอนุกรรมการฯ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในแต่ละประเด็น เพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งประเด็น ดังนี้
1.ต้นน้ำ ให้ทำการศึกษา และลงรายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีที่ใดบ้าง พื้นที่ต่างๆ ที่จะอนุรักษ์ เพิ่มป่าไม้ หน่วยงานใดจะรับผิดชอบ ซึ่งประเด็นนี้ มอบหมายให้ ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว รับผิดชอบดูแล
2.อ่างเก็บน้ำ ทั้งที่มีอยู่เดิม และที่จะสร้างเพิ่มขึ้นตน (กิจจา ผลภาษี) รับผิดชอบดูแลเอง ซึ่งอาจจะเสร็จเร็วที่สุด เนื่องจากข้อมูลเขื่อน และอ่างเก็บน้ำมีอยู่มากแล้ว เพียงปรับปรุงบางส่วน จากนั้นจะสามารถเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามานำไปสานต่อได้ทันที
ทั้งนี้ การสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มได้มีแผนอยู่แล้ว เช่น น้ำปิง จะสร้างเพิ่ม 1 แห่ง น้ำวัง ไม่มีพื้นที่สร้างแล้ว น้ำยม มี 2 ทางเลือก คือ สร้างยมตัวใหญ่ (อดีตเขื่อนแก่งเสือเต้น) หรือยมตัวเล็ก
“น้ำยมต้องมีอ่างเก็บน้ำแน่นอน ส่วนขนาดใหญ่ หรือเล็กนั้นยังไม่ทราบได้ ต้องมีรายละเอียด ทั้งด้านสังคม และมวลชนเข้ามาเกี่ยวข้องมาก แต่ตามหลักการของเรา คือ อะไรก็ตามที่ทำต้องคุ้ม แต่ยืนยันว่าต้องมีแน่ คนที่พูดว่าการสร้างอ่างที่น้ำยมจะช่วยลดน้ำท่วมได้นิดเดียวนั้น พูดไม่จริง คนที่พูดไม่รู้จริง เพราะ 3 แคว ทั้ง ปิง วัง น่าน มีตุ่มหมดแล้ว ยกเว้นน้ำยมที่ยังไม่มี เมื่อไม่มีตุ่มก็คุมน้ำไม่ได้ เมื่อน้ำมาก็ท่วมแหลกลาน น้ำแล้งก็แห้งผาก ดังนั้น อย่างน้อยๆ ต้องมีตุ่ม จะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม จะทำให้สถานการณ์น้ำดีขึ้น ซึ่งจะเป็นแก่งเสือเต้นหรือไม่ก็แล้วแต่ ต้องดูกันต่อไป”
3.แก้มลิง และพื้นที่รับน้ำนอง ได้มอบหมายให้ นายวิรัตน์ ขาวอุปถัมภ์ รับผิดชอบดูแล
4.คันกั้นน้ำ และพื้นที่ชุมชน ได้มอบหมายให้ นายวีระ วงศ์แสงนาค รับผิดชอบดูแล ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากต้องไปพูดคุยและทำความเข้าใจกับประชาชนภายในอบต. หรือจังหวัดต่างๆ
5.ระบบข้อมูลเตือนภัย และข้อมูลน้ำ ได้มอบหมายให้ นายสมบัติ อยู่เมือง รับผิดชอบดูแล
6.ฟลัดเวย์ และการผันน้ำ ทั้งที่ออกด้านซ้าย และด้านขวา ได้มอบหมายให้ นายชูเกียรติ ทรัพย์ไพศาล รับผิดชอบดูแล
นายกิจจา กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมการฯ จะเข้ามาประชุมร่วมกันอีกครั้ง ภายหลังที่กลับมาจากดูงานในวันที่ 13 ถึง 17 กุมภาพันธ์นี้กับนายกรัฐมนตรี โดยคณะอนุกรรมการแต่ละด้านจะนำข้อสรุปแผน ที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการดูงานมารวบรวม และเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาร่วมประชุมด้วย
“จากนี้จะลงรายละเอียดให้ชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกล่าวหาว่าคณะกรรมการชุดยั่งยืนมีแต่แผน ไม่มีรายละเอียด อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ จะไม่ยุ่งหรือเกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างหรืองบประมาณ เพราะมีหน้าที่ทำแผน และวิเคราะห์งานต่างๆ เท่านั้น จากนั้นจะมอบหมายงานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น เรื่องอ่างเก็บน้ำ จะเรียกกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและกรมทรัพยากรน้ำ ฯลฯ มาดำเนินการ ซึ่งการก่อสร้าง หรือการดำเนินตามแผนจะเริ่มต้นได้เมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต่างๆ ที่จะรับผิดชอบจากนี้ว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใด อาทิ น้ำยม ในส่วนอ่างขนาดใหญ่อาจมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งรายงานการศึกษา และ EIA แต่หากจะสร้างเป็นอ่างขนาดเล็กด้านจะต้องไปศึกษาเพิ่ม”
นายกิจจา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ระบุพื้นที่รับน้ำไว้กว้างๆ ประมาณ 2 ล้านไร่หรือมากกว่านั้น ซึ่งการลงพื้นที่ศึกษาดูงานตามจังหวัดต่างๆ ในครั้งนี้ จะลงไปให้ข้อมูล และรับข้อมูลเพิ่มเติมจากจังหวัดต่างๆ ว่ามีปัญหาหรือไม่อย่างไร การจัดทำพื้นที่รับน้ำนองจะมีการต่อต้านหรือไม่ หรือมีความเข้าใจเพียงพอหรือยัง
"แผนงานของอนุกรรมการวางระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ได้เสร็จสิ้นครบถ้วนไปก่อนหน้านี้แล้ว เหลือเพียงนำไปสู่รายละเอียดของการทำงาน ซึ่งแผนแต่ละข้อจะเริ่มต้นพร้อมๆ กัน เพียงแต่บางประเด็นอาจเดินหน้าไปได้เร็วกว่า และบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและการสร้างความเข้าใจ ก็คงต้องค่อยๆ เดินหน้า เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน"
