“สมิทธ”ชี้"ปู"เห็นด้วยตั้งกระทรวงน้ำ
“สมิทธ”หยอดยาหอม “นายกฯปู” แผนทัวร์นกขมิ้นเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติได้ ชงตั้งกระทรวงน้ำแก้ปัญหา ชี้หน่วยงานเล่นการเมือง ยันข้อมูลวิชาการ 2 เขื่อนใหญ่เสียงแตกน้ำท่วมกทม.สูง 3 เมตร
วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่เขื่อนสิริกิติ์ ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายสมิทธ ธรรมสโรช ในฐานะคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ( กยน.) กล่าวถึงการเดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ. ของนายกรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นเรื่องดี หากการบริหารจัดการน้ำมีข้อบกพร่องในจุดใดจะได้แก้ปัญหาได้ทันก่อนถึงฤดูฝน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ผ่านมา อีกทั้งจะทำให้เกิดความมั่นใจและอุ่นใจกับประชาชน และนักลงทุนต่างประเทศได้มากขึ้นด้วย ส่วนการระบายน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือ 45 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่การบริหารจัดการน้ำจะต้องทำให้ได้ดีด้วย เพื่อไม่ให้น้ำไปท่วมพื้นที่ลุ่มและส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน และเกิดปัญหาภัยแล้งตามมา
นายสมิทธ กล่าวถึงระบบเตือนภัยในปัจจุบันว่า ยังใช้ไม่ได้ เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.พระนครศรีอยุธยา ควรต้องบอกประชาชนล่วงหน้าเพื่อลดความเสียหาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้คงจะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำระบบการเตือน ภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อถามว่าประเมินว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้จะท่วมหนักกว่าปีที่แล้วหรือไม่ นายสมิทธ กล่าวว่า ถ้าไม่มีการบริหารที่ถูกต้องก็มีอาจจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกำลังทำ จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็ว เพราะอาจเคยเป็นผู้บริหารมาก่อน
นายสมิทธ กล่าวด้วยว่า เห็นว่าควรมีการตั้งกระทรวงน้ำขึ้นมา เพื่อให้มีอำนาจเต็มที่ในการควบคุมการบริหารงาน สั่งการแบบเด็ดขาด ทั้งการแจ้งบริหารจัดการน้ำ แจ้งเตือนภัย หรือการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยา แต่ปัจจุบันมีกระทรวงที่ดูแลเรื่องน้ำถึง 20 หน่วยงาน ซึ่งมากเกินไป ทำให้ทะเลาะกัน เพราะต่างคนต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน ประชาชนก็จะเกิดความสับสน ซึ่งคิดว่ากระทรวงน้ำคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีขึ้น เพราะเท่าที่ฟังจากผู้ใหญ่ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีก็มีแนวโน้มเห็นด้วย เพราะเป็นมาตรการเดียวที่จะทำให้การบริหารจัดการน้ำทำได้ดีขึ้น สั่งงานทุกหน่วยงานได้แบบเด็ดขาด แม้แต่ กทม. หากไม่ทำตามก็จะถือว่าผิดกฎหมาย แต่ในระหว่างนี้ก็ให้คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) ที่ครม.แต่งตั้งขึ้นใหม่บริหารจัดการไปก่อน เพราะมีรูปแบบคล้าย ๆ กัน เพียงแต่รองรับด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะถ้าทำผิดพลาดไปคนทำงานอาจถูกฟ้องร้องได้ แต่ถ้าเป็นกระทรวงน้ำมีพระราชกิจจานุเบกษารองรับ รัฐบาลจะรับผิดชอบเองหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
นายสมิทธ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกโจมตีเรื่องการออกมาแจ้งเตือนอาจเกิดแผ่นดินไหวและทำ ให้ 2 เขื่อนใหญ่คือเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี จากรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และเจดีย์ 3 องค์ เพราะในประวัติศาสตร์ก็เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วหลายครั้ง จึงจำเป็นต้องออกมาแจ้งเตือนเพื่อให้เตรียมการรองรับ เพราะถ้าเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจริง ก็จะส่งผลให้เขื่อนแตก ซึ่ง จ.กาญจนบุรี จะเกิดน้ำท่วมทันทีถึง 22 เมตร และไหลมายัง จ.ราชบุรี นครปฐม รวมทั้งกทม.ก็จะถูกน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 3 เมตรเช่นกัน ซึ่งทางผวจ.กาญจนบุรี ก็ออกมายอมรับแล้วว่าได้เตรียมสถานที่สูงไว้อพยพผู้คนแล้ว ดังนั้นข้อมูลทางวิชาการเตือนไว้ก็ไม่เสียหายอะไร “ผมคงไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาเกิดเหตุได้ เพราะถ้าบอกได้ก็คงรวยไปแล้ว แต่บอกว่ามันมีความเป็นไปได้ ให้คอยดูแล้วกัน โดยเฉพาะคนที่หัวเราะเยาะผมในเวลานี้”นายสมิทธ กล่าว. 
