นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทยชี้เรือปั่นไฟทำให้ปลาทูสูญพันธุ์
นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทยชี้เรือปั่นไฟกำลังทำให้ปลาทูลดจำนวนลง-หายไปจากทะเลไทย กังวลทำลายห่วงโซ่อาหารปลาชนิดอื่นสูญพันธุ์ไปด้วย เผยการจับลูกปลาทูทำลายมูลค่าทางเศรษฐกิจของปลาทู โวยรัฐออกมาดิ้นแก้ปัญหาเพราะนายทุน ถ้าเป็นชาวบ้านป่านนี้ยังไม่เห็นหัว
จากกรณีที่นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย เผยแพร่ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้เรือปั่นไฟทำประมง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อปลาขนาดเล็กและอาจทำให้ลูกปลาทูสูญพันธุ์
นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวถึงการที่ต้องมีการรณรงค์เพื่อยกเลิกการใช้เรือปั่นไฟ เพราะเป็นสาเหตุการลดจำนวนลงของปลาทู ซึ่งก่อนหน้านี้สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2524 ได้ให้มีการยกเลิกเรือปั่นไฟไป และทำให้การใช้เรือปั่นไฟเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตอนนั้นเป็นประกาศของหมอบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่พอถึงปี 2539 นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ก็ได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการยกเลิกประกาศของหมอบุญเอื้อ ทำให้สามารถใช้เรือปั่นไฟได้ และลูกปลาทูก็ทำลายอย่างรุนแรงในปี 2539 จนถึงปัจจุบัน
"นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปลาทูในทะเลไทยหายไปเป็นจำนวนมาก และการหันมาจับและบริโภคลูกปลาทูเป็นการทำลายมูลค่าทางตลาดของปลาทูโดยตรง" นายบรรจง กล่าว และว่า เคยทดลองไปซื้อลูกปลาทูมาที่หัวหิน 1 ถุง 100 บาท มีจำนวน 1,200 กว่าตัว แต่ถ้าหากเราไปซื้อปลาทูในตลาดจะได้ 13 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม หรือไม่ก็กิโลกรัมละร้อย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 9,000 เกือบ 10,000 บาท ดังนั้นการกินลูกปลาทูจะเป็นการทำลายมูลค่าทางเศรษฐกิจ อีกด้านหนึ่งเราควรจะรณรงค์และยกเลิกเครื่องมือปั่นไฟที่ทำลายลูกปลาทูด้วย
นายบรรจง กล่าวถึงวิธีการใช้เรือปั่นไฟในการทำประมง ไม่ค่อยถูกนำมาใช้แล้วในหลายประเทศ เพราะจะไปทำลายห่วงโซ่อาหารเป็นวงกว้าง ทำให้ปลาหลายชนิดโดนลูกหลงไปด้วย เช่นปลาสาก ปลาอินทรีย์ เป็นปลาที่กินปลาขนาดเล็ก ถ้าไม่มีปลาตัวเล็กไป ปลาสากก็ไม่มีอาหาร ทำให้ปลาสาก ปลาอินทรีย์ จะหายไปจากทะเลอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่ถูกทำลายอย่างรุนแรงไปเรื่อยๆ เพราะปลาตัวเล็กๆ จะเป็นอาหารของปลาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นการทำลายความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร เพราะการยั่งยืนคือการต้องมีห่วงโซ่อาหารที่ครบวงจร ไม่ใช่ไปตัดวงจรอาหารของสัตว์น้ำไป
ส่วนกรณีที่ประเทศไทยมีแนวโน้มจะได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรปนั้น นายบรรจง กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะทางอียูต่อเวลาให้อีก 2 เดือน เรื่องนี้เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อระบบทุนของรัฐบาล รัฐบาลเลยร้อนรนจะหาทางแก้ไข แต่เรืออวนลาก,เรือปั่นไฟนั้นส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และชาวประมงใน 22 จังหวัดมานานแต่รัฐบาลไม่เคยสนใจ แต่พอไอยูยู บอกถึงมีมาตรการว่า หากเราไม่ทำเขาจะบอยตอตสินค้าประมงของไทยไม่ให้เข้าตลาดยุโรป ซึ่งเรื่องนี้จะไปกระทบนายทุน ผู้ส่งออกกุ้ง ผู้ส่งออกทูน่ากระป๋อง ทำให้รัฐบาลต้องดิ้นรนหาทางออก ซึ่งส่งผลดีต่อชาวประมงพื้นบ้าน อย่างน้อยก็เลิกเรืออวนลุนไปตัวหนึ่ง แต่ที่น่ากังวลและน่ายกเลิกเป็นเรื่องต่อไปคือเรือปั่นไฟที่ทำลายปลาทู กับเรืออวนลาก