ศาลอนุมัติหมายจับชาวอิหร่าน 4 คน ร่วมก่อเหตุระเบิดที่ถนนสุขุมวิทแล้ว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ศาลอนุมัติหมายจับชาวอิหร่าน 4 คน ร่วมก่อเหตุระเบิดซอยปรีดีพนมยงค์ 31 และ 35 แล้ว พร้อมประสานมาเลเซียขอตัวผู้ต้องหาอีก 1 คน กลับมาดำเนินคดี
พลตำรวจเอกปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนทั้งหมด ในส่วนของนครบาล กองปราบปราม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืิอง สันติบาล ผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดบริเวณซอยปรีดีพนมยงต์ 31 และ 35 ถนนสุขุมวิท 71 โดยถือเป็นการประชุมนัดแรก หลังเหตุการณ์ผ่านไป 48 ชั่วโมง
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การสืบสวนติดตามคดีนี้ จะไม่ทำเฉพาะการจับกุมคนร้ายเท่านั้น แต่จะตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด โดยเฉพาะจุดประสงค์ที่คนร้ายเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เข้ามากี่ครั้ง มาจากประเทศใด บุคคลใดเป็นผู้นำระเบิดเข้ามา หรือประกอบระเบิดขึ้นที่ใด มีใครร่วมขบวนการบ้าง ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ (16 ก.พ.) จะพิจารณาพยานหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ภายในบ้านเช่า เลขที่ 66 ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ทั้งวิทยุทรานซิสเตอร์ ของส่วนตัวของผู้ต้องหาที่ตรวจยึดได้ และวัตถุพยานอื่นๆ เพื่อนำมาสรุปผลรวมกับการสรุปเหตุการณ์ของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน
ส่วนการออกหมายจับคนร้ายทั้งหมด พลตำรวจเอกปานศิริ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับชาวอิหร่านทั้ง 4 คนแล้ว ในข้อหาที่ต่างกันตามพฤติกรรม โดยศาลใช้เวลาในการพิจารณาหลายชั่วโมง จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด วัตถุระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุ คำให้การของพยานแวดล้อม โดยเฉพาะสายตรวจสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ที่พบตัวคนร้ายและพยายามเข้าจับกุม รวมถึงพยานที่เห็นคนร้ายโยนระเบิดใส่รถแท็กซี่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายเซดากัซ ซาเด้ มาซูด ชาวอิหร่านอีก 1 คน ที่หลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียได้แล้ว และอยู่ระหว่างประสานขอนำตัวกลับมาดำเนินคดี

