นายกฯแถลงโมเดลรับมือน้ำท่วมปีหน้า
นายกฯสรุปแผนงานการบริหารจัดงานน้ำ ส่วนรมว.เกษตรฯ ยืนยันการระบายน้ำออกจากเขื่อน มีแผนป้องกันการเกิดภัยแล้งควบคู่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฎิบัติภารกิจเป็นวันสุดท้ายในการรับฟังผลการประชุมแผนงาน /โครงการป้องกันน้ำท่วมจังหวัดพื้นที่ปลายน้ำ(ตอนล่าง) และการสรุปความคืบหน้าในการจัดหารพื้นที่รับน้ำธรรมชาติหรือแก้มลิงให้ได้ตามแผน
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำและหน่วย งานราชการต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและพื้นที่ รวมทั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (กยน.) เพื่อสรุปแนวทางทั้งหมดที่ได้ลงพื้นที่มาตั้งแต่วันแรก โดยเฉพาะการหาพื้นที่รับน้ำธรรมชาติหรือแก้มลิงให้ได้ 2 ล้านไร่ตามแผน ซึ่งขณะนี้ได้พื้นที่รับน้ำมาแล้วประมาณ 1.4 ล้านไร่
นอกจากนี้ ได้รับฟังผลการประชุมแผนงาน /โครงการป้องกันน้ำท่วมจังหวัดพื้นที่ปลายน้ำ(ตอนล่าง) ณ โรงแรมแคนทารี่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้น มีการแถลงผลการตรวจราชการต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า จะพร่องน้ำ 2 เขื่อนใหญ่ในปริมาณความจุ 45% ส่วนเขื่อนอื่นจะดูตามความเหมาะสม
ขณะที่พื้นที่กลางน้ำจะหาแก้มลิงให้ได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้จะมีระบบเชื่อมคลองเล็กสู่คลองใหญ่ คลองใหญ่ไปแม่น้ำสายหลัก
ด้านพื้นที่ปลายน้ำมีมาตรการระบายน้ำทั้งฝั่งตะวันตก สละฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนายกฯ ได้อธิบายประกอบแผนที่ด้วย
และเมื่อเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมยังประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานี โดยเป็นจุดสำคัญอีก 1 จุดสำคัญในการป้องกันปริมาณไหลเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ติดตามการซ่อมแซมประตูระบายน้ำส่วนที่เกิดการชำรุดจากอุทกภัยในปีที่ผ่านมา และการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งประตูระบายน้ำแห่งนี้เป็นโครงการคันกั้นน้ำพระราชดำริ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อ
'ธีระ'ยันการระบายน้ำออกจากเขื่อนมีแผนป้องกันภัยแล้งควบคู่
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของนางสาวยิ่งลักษณ์ เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัด จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยพื้นที่ต้นน้ำให้ปลูกป่า ทำฝายชะลอน้ำ และจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ปรับการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลักตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
ส่วนพื้นที่กลางน้ำ จะมีการเชื่อมลุ่มน้ำให้สามารถระบายน้ำได้สะดวกขึ้น ทั้งการขุดลอกคูลอง การทำแก้มลิง สำหรับพื้นที่ปลายน้ำจะระบายน้ำลงทะเลให้เร็วขึ้น รวมถึงพิจารณาพื้นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำ ซึ่งขณะนี้แต่ละจังหวัดได้จัดหาพื้นที่ไว้แล้วกว่า 1 ล้านไร่
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะพิจารณาขอบเขตพื้นที่และการระบายน้ำออก รวมถึงการปรับโครงสร้างพื้นฐาน การเยียวยาประชาชนในพื้นที่ และภายหลังการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น จะมีการสรุปแผนงาน และโครงการที่ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงการระบายน้ำออก จากเขื่อน อาจส่งผลให้เกิดปัญหาภัยแล้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (กยน.) ได้กำหนดแผนงาน และหลักเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำ ทั้งการบรรเทาปัญหาอุทกภัย และการป้องกันการขาดแคลนน้ำไว้แล้ว โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา . 
