ผบ.ทบ.รอ ก.กลาโหม ชง ครม.ซื้อยานเกราะจีน 34 คัน 2 พันล.
ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมฝึกประจำปี กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ มั่นใจมีกำลังรบพร้อมเผชิญภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ ฝากทุกคนเตรียมพร้อม ภาคภูมิใจในความเป็นทหารอาชีพ เผยภาพรวมน่าภูมิใจ รับปัญหามีรถถังเก่ารับมาตั้งแต่ปี 05 บอกซื้อของจีนเหตุเข้ามาสร้างศูนย์ซ่อมสร้างในไทย ระบุรอกลาโหมชง ครม.ซื้อยานเกราะเพิ่มอีก 34 คัน รวม 2 พันล้าน
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่บริเวณพื้นที่ฝึกเนินตรวจการ 129 บ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมการฝึกประจำปี 2560 ของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ทั้งนี้ได้จัดการฝึกเป็นกรมทหารม้าเฉพาะกิจประกอบกำลังจากกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ (ม.4 รอ.), กองพันทหารปืนใหญ่จากกองพลทหารปืนใหญ่, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน จากกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน, กองพันทหารช่างจากกรมการทหารช่าง, กองพันทหารเสนารักษ์, กองพันทหารรบพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, หน่วยบินเฉพาะกิจ ศูนย์การบินทหารบกและข้าศึกสมมุติจากกองพันทหารม้าที่ 22 (ม.พัน.22) ศูนย์การทหารม้า รวมกำลังพลเข้าร่วมฝึกกว่า 2,800 นาย
โดยมียุทโธปกรณ์เข้าร่วมการฝึก ได้แก่ รถถังเอ็ม-60 เอ 1, เอ็ม 60 เอ 3 รถถังเบาแบบ-21 (สกอร์เปี้ยน), รถสายพานลำเลียงพลแบบ 30 หรือ T-85 ปืนใหญ่ซีซาร์ขนาด 155 มม. ปืนใหญ่แอตมอส (atmos) ปืนใหญ่อัตราจร 155 มม.จากประเทศอิสราเอล เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน เอเอส-550 (เฟนเนค) เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบคอบร้า เครื่องบินเอฟ-16 เข้าร่วมทำการฝึกตามแผนป้องกันด้วย
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวให้โอวาทกำลังพลตอนหนึ่งว่า ขอชื่นชมและขอบคุณทุกคนที่ได้แสดงสาธิตในวันนี้ ทุกคนทำด้วยความทุ่มเทตั้งใจ โดยเฉพาะการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร จึงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถของหน่วยรถยานเกราะซึ่งเป็นกำลังหลักของกองทัพบก อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมในครั้งนี้ถือเป็นการปฏิบัติร่วมที่มีหลายหน่วยเข้ามาปฏิบัติร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งมีการวางแผนอำนวยการกลยุทธ์ที่จำเป็นจะต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม และที่สำคัญที่สุดมีการประสานสอดคล้องระหว่างกัน นอกเหนือจากนั้นยังแสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นเหมือนอย่างที่แสดงให้ตนเห็นในวันนี้
“ผมมั่นใจได้ว่าเรามีกำลังรบหลักที่พร้อมเผชิญภัยคุกคามจากภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะมีความสัมพันธ์ระหว่างเราและประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น แต่พวกเราก็ตระหนักดีว่ายังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หากเกิดความขัดแย้งอีกในอนาคต เราเองจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรบ” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์ภายในประเทศ ปัจจุบันกองทัพถึงได้ดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคงให้แก่รัฐบาลในทุกมิติเพื่อให้รัฐบาลบริหารประเทศไปได้ตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ โดยตนขอฝากให้พวกเราทุกคนเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของตนเอง และของหน่วยเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะกำลังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าซึ่งเป็นกำลังพลของ พล.ม.2 รอ.ถือว่าเป็นกำลังหลักของกองทัพบกมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีความพร้อมตลอดเวลาในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
“ผมอยากให้พวกเราทุกคนมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารอาชีพของเรา จะทำหน้าที่ในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อยากให้พวกเราทำหน้าที่ในฐานะทหารของชาติอย่างดีที่สุดในกรอบที่เราสามารถทำได้ ทั้งยังมั่นใจว่ากำลังหลักของกองทัพบกก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะปกป้องชาติบ้านเมือง และป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผบ.ทบ.กล่าว
จากนั้น พล.อ.เฉลิมชัยให้สัมภาษณ์ว่า มาตรวจการฝึกของหน่วยเฉพาะกิจระดับกรมทหารม้ารักษาพระองค์ตามนโยบายของกองทัพบกในปีนี้ที่ เน้นการฝึก กรมเฉพาะกิจทหารราบ 3 กรม และกรมทหารม้าเฉพาะกิจของ พล.ร.2 รอ. เพื่อเป็นการตรวจสอบความพร้อมรบ การปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุและแผนป้องกันประเทศโดยเน้นในเรื่องคือความพร้อมของกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึก และแผนการปฏิบัติ นอกจากผลลัพธ์ดังกล่าวแล้ว ยังเน้นในเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลเป็นรายบุคคลในเรื่องของความเข้าใจในหลักนิยม เป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากเป็นการปฏิบัติการในหลายเหล่า หลักการปฏิบัติทางยุทธวิธีและภาพการปฏิบัติในภาคสนาม นอกจากนั้นเป็นเรื่องความสามารถส่วนบุคคล
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ภาพรวมของการฝึกวันนี้เป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะ พล.ม.2 รอ.ถือเป็นกำลังหลักของกองทัพบก ส่วนที่เป็นกองหนุนพร้อมที่จะปฏิบัติการในทุกพื้นที่บริเวณตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยปกติการรบในการปฏิบัติจะต้องบูรณาการในทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันตั้งแต่ระดับหน่วยขึ้นมา ที่เป็นการฝึกเฉพาะบุคคลระดับหมู่ หมวด มาถึงภาคกองร้อย และระดับกองพันที่จะได้มีการบูรณาการ จนมาถึงระดับกลุ่มมีความชัดเจน มีเหล่าต่างๆ เพิ่มเข้ามา ในระดับสูงกว่านี้ก็จะเป็นการฝึกในภาพรวม เช่น การฝึกร่วมประจำปีกับกองทัพเรือ และกองทัพอากาศที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีการบูรณาการกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ขอให้ทุกหน่วยนำจุดเด่นของแต่ละเหล่ามาผสมผสานให้เกิดอำนาจกำลังรบที่ดีที่สุด
“ในวันนี้เป็นเรื่องที่น่าพอใจและขีดความสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ความสามารถของทหารม้า และอีกส่วนเป็นการบูรณาการในภาพรวม ทั้งกำลังทางอากาศ และหน่วยรบพิเศษ ปืนใหญ่ทหารช่าง การปฏิบัติในลักษณะนี้จะต้องมีการประสานสอดคล้องอย่างดีเพราะมีการใช้อาวุธกระสุนจริงค่อนข้างอันตราย” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ส่วนยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในวันนี้ถือเป็นการปฏิบัติของกรมทหารม้าที่ 4 ยุทโธปกรณ์หลักก็คือรถถัง M60/A3 เข้าประจำการปี 2539 โดยศักยภาพแล้วมีอายุการใช้งานที่ 20 กว่าปี ก็ยังสามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ได้สอบถามในเรื่องของการซ่อมบำรุงเครื่อง ปัจจุบันก็ยังมีการซ่อมบำรุงน้อย เพียงแต่อัพเกรดขึ้นไปถือเป็นกำลังหลัก แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือรถถังชนิด M-41 ที่รับมาตั้งแต่ปี 2505 จำนวน 272 คัน ปัจจุบันส่วนหนึ่งได้มีการจำหน่ายประจำการไปแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังคงใช้งานอยู่ในกองพันรถถังทั้ง 4 กองทัพภาค ถือเป็นโครงการที่เราได้จัดหารถถังที่ทดแทนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการที่ผ่านมาก็คือ รถถัง oplot ของประเทศยูเครนได้รับแล้ว 20 คัน อีก 5 กำลังจะมา และที่มีการลงนามสัญญาในปีที่แล้วคือรถถัง VT4 จากจีน จำนวน 28 คัน ตามสัญญาจะมาในปีหน้าแต่จะเร่งรัดให้มาทันในปีนี้และจะนำไปบรรจุที่ กองร้อยกองบังคับการ กองพันทหารม้าที่ 6 (ม.พัน.6) และกองร้อยกองบังคับการ กองพันทหารม้าที่ 21 (ม.พัน.21) จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อถามว่า ในการจัดซื้อรถถัง VT4 จะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า มีการจัดหายุทธกรณ์กองทัพมีขั้นตอนอยู่ 2 ระบบคือ สำหรับยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่ค่อนข้างจะเก่ากว่า 50 ปีมาจากประเทศยูเครนซึ่งยังมีปัญหาในเรื่องของสงครามภายในประเทศ การส่งยังไม่ครบขั้นตอน ส่วนระยะที่ 2 ได้ไปดูที่ประเทศจีน และมีคณะกรรมการเปรียบเทียบกัน 4 ประเทศ คือ จีน รัสเซีย ยูเครน สิงคโปร์ และท้ายที่สุดคณะกรรมการก็เลือกของประเทศจีน เพราะจากที่ได้ไปดูรายการส่งกำลังบำรุงค่อนข้างจะชัดเจน และข้อตกลงสุดท้ายคือการมาสร้างศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อมาดูแลเรื่องอะไหล่ในพื้นที่ของเราเอง ทำให้มีความมั่นใจมีมากขึ้น ขณะที่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในส่วนของการจัดศูนย์ซ่อมสร้างนั้นอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหมที่ดูในภาพรวมที่อยู่ในความดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถือเป็นขั้นตอนใหญ่
เมื่อถามว่า การจัดซื้อรถถัง vt4 ต้องจัดซื้อกี่ระยะถึงจะพบอัตราทดแทน พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า การจัดซื้ออยู่ในระยะที่ 2 ได้รับอนุมัติจำนวน 10 คัน และในก่อนหน้านั้นอีกจำนวน 28 คัน ในส่วนของรถถัง oplot มีอยู่ 20 คัน และจะมา 5 คันในปีนี้ ในปีต่อๆ ไปตามข้อตกลงทั้งหมดจนครบจำนวน 48 คัน
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า สำหรับการจัดหายานเกราะล้อยางระยะต่อไปในปีงบประมาณ 2560 ทบ.ได้คัดเลือกรถเกราะล้อยาง VN-1 จาก สปป.จีน 34 คัน วงเงินประมาณ 2 พันล้านบาท ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงกลาโหม รอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

