ครม.เคาะงบเร่งด่วน 2.4 หมื่นล้าน อนุมัติ 246 โครงการป้องกันน้ำท่วม

ครม.อนุมัติงบ 2.4 หมื่นล้านให้ ก.คมนาคม เดินหน้า 246 โครงการเร่งด่วน ซ่อมคันกั้น ประตูระบายน้ำ ฝั่งตะวันออก-ตกแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเห็นชอบ 424 ล.บ. ปรับระบบเตือนภัยของประเทศ
วันที่ 6 มีนาคม คณะรัฐมนตรี รับทราบแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนปี พ.ศ.2555 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อใช้ป้องกันน้ำท่วม 246 โครงการ ต่อคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน ซึ่งได้เห็นชอบมติในคราวประชุมคณะกรรมการ กบอ. เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2555
โดยแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนปี พ.ศ.2555 เน้นหลักการระบายน้ำ จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ให้สามารถระบายน้ำได้มากที่สุดตามศักยภาพ ประกอบกับสามารถป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนที่สำคัญ ป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมด 246 โครงการ ซึ่งล้วนเป็นโครงการเร่งด่วน ดังต่อไปนี้
1.การดำเนินการในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 15,592,821,500 บาท เป็นโครงการเร่งด่วน 15,592,821,500 บาท แบ่งพื้นที่เป็น 1.1 แนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ปากคลองระพีพัฒน์ จนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 8 โครงการ งบประมาณ 559,500,000 บาท
1.2 แนวคันกั้นน้ำฝั่งตะวันตกคลองระพีพัฒน์ ตั้งแต่ปากคลองระพีพัฒน์จนถึงชายทะเล จำนวน 41 โครงการ งบประมาณ 9,081,196,500 บาท
1.3 การย้ายแนวคันพระราชดำริ ไปที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ฝั่งใต้ และคลองเจ็ด จำนวน 15 โครงการ งบประมาณ 1,964,550,000 บาท
1.4 ซ่อมแซมประตูระบายน้ำ และติดตั้งสถานีสูบน้ำเพิ่มเติม จำนวน 50 โครงการ งบประมาณ 355,306,000 บาท
1.5 ปรับปรุงคลองระบายน้ำภายในคันปิดล้อมพื้นที่ฝั่งตะวันตก จำนวน 38 โครงการ งบประมาณ 136,269,000 โครงการ
1.6 โครงการขุดคลอกแม่น้ำและคลองขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ จำนวน 9 โครงการ งบประมาณ 3,496,000,000 บาท
2.การดำเนินการในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 25,735,999,000 บาท เป็นโครงการเร่งด่วน 9,235,999,000 บาท
2.1 แนวคันกั้นน้ำด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ปากคลองพระยาบรรลือ จนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 33 โครงการ งบประมาณ 2,263,514,000 บาท
2.2 แนวคันกั้นน้ำด้านใต้ตามคลองพระยาบรรลือ จำนวน 8 โครงการ งบประมาณ 1,792,900,000 บาท
2.3 แนวคันกั้นน้ำด้านใต้ตามคลองพระพิมล จำนวน 8 โครงการ งบประมาณ 626,100,000 บาท
2.4 แนวคันกั้นน้ำด้านใต้ตามคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 3 โครงการ งบประมาณ 1,858,250,000 บาท
2.5 แนวคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออกริมแม่น้ำท่าจีน จากปากคลชองพระยาบันลือ ด้านแม่น้ำท่าจีน ถึงปากแม่น้ำท่าจีน จำนวน 12 โครงการ งบประมาณ 2,542,805,000 บาท
2.6 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ให้สามารถระบายน้ำลงสู่พื้นที่แก้มลิงมหาชัย จำนวน 1 โครงการ งบประมาณ 48,140,000 บาท
2.7 ปรับปรุงคลองระบายน้ำภายในคันปิดล้อมพื้นที่ฝั่งตะวันตก จำนวน 3 โครงการ งบประมาณ 10,600,000 บาท
2.8 ซ่อมแซมประตูน้ำและติดตั้งสถานีสูบน้ำเพิ่มเติม จำนวน 17 โครงการ งบประมาณ 93,690,000 บาท
ในส่วนที่เป็นโครงการระยะยั่งยืน ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่
1.จัดทำ Canel Street ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 จำนวน 1 โครงการ งบประมาณ 1,500,000,000 บาท
2.จัดทำ Canel Street ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 จำนวน 1 โครงการ งบประมาณ 2,500,000,000 บาท
3.ขยายทางยกระดับบรมราชชนนี ถึงจังหวัดนครปฐม ระยะทาง 21 กิโลเมตร จำนวน 1 โครงการ งบประมาณ 12,500,000 บาท
"เมื่อรวมงบประมาณที่พิจารณาทั้งสิ้น 41,328,820,500 บาท ทั้งหมด 249 โครงการแล้ว ส่วนของโครงการเร่งด่วนรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 24,828,820,500 ล้านบาท จากจำนวนทั้งสิ้น 246 โครงการ (ส่วนโครงการระยะยั่งยืนรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 16,500,000,000 ล้านบาท จากจำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ) "
เคาะ 424 ล้านบาทปรับ "ระบบเตือนภัยประเทศ"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ในการเสนอตั้งงบประมาณของแผนงานปรับปรุงระบบการเตือนภัยของประเทศภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) โดยให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาต่อ
ทั้งนี้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมต.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ถึงแนวทางการตั้งงบประมาณของแผนปรับปรุงระบบเตือนภัยของประเทศ ประกอบด้วย 5 โครงการ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 424 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2555 งบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน และแผนระยะยั่งยืน ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ
"แนวทางการจัดตั้งงบประมาณ แบ่งออกเป็น 2 ทางเลือก คือ 1.จัดตั้งงบประมาณไว้ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แต่กระทรวงเทคโนโลยีฯ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยทั้ง 2 กระทรวงจะร่วมกันจัดทำข้อกำหนดโครงการ (TOR) และควบคุมการดำเนินงาน 2.จัดตั้งงบประมาณไว้ที่กระทรวงเทคโนโลยีฯ โดยมีเงื่อนไขว่าการจัดทำข้อกำหนดโครงการ (TOR) ต้องผ่านความเห็นชอบจาก รมต.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อให้ระบบเตือนภัยของประเทศเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ มีความเป็นมาตรฐานและเชื่อถือได้
เอกสารที่เกี่ยวข้อง : ตารางสรุปแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ฯ
