โพลชี้ปชช.หนุนตรวจบัญชีทรัพย์สินผอ.ร.ร.
“นิด้าโพล”เผยประชาชนหนุนออกกฎหมายตรวจบัญชีทรัพย์สินผอ.ร.ร.ทั่วประเทศแก้ปัญหา“แป๊ะเจี๊ยะ” ค้านเก็บภาษีการศึกษา
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 1,258 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรื่อง“ปัญหาแป๊ะเจี๊ยะ” พบว่าประชาชน 75.04 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่เคยบริจาคเงินของตัวเองหรือคนใกลัตัวให้กับโรงเรียนเพื่อแลกกับการเข้าเรียนของบุตรหลาน ขณะที่ 24.01 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเคยบริจาค ส่วนการออกกฎหมายให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งประเทศ เพื่อป้องกันการทุจริตรับสินบนนั้น ประชาชน 89.51 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเห็นด้วย แต่ 6.04 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วย สำหรับการจ่ายแป๊ะเจี๊ยะเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนั้น พบว่าประชาชน 66.53 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่ชอบ เพราะถือเป็นการสนับสนุนให้โรงเรียนทุจริต รองลงมา 21.94 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า เฉยๆ เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ขณะที่ 10.73 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่เป็นไร ถือว่าซื้อสังคมให้ลูกหลาน เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนว่าโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียง มีการเปิดรับเงินบริจาคเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าเรียน หรือแป๊ะเจี๊ยะหรือไม่ พบว่าประชาชน 66.53 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่ามี เพราะเป็นธรรมเนียมและค่านิยมที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาช้านาน รองลงมา 18.52 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าไม่มี เพราะเชื่อว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ น่าจะมีการตรวจสอบอย่างรัดกุม และรัฐบาลน่าจะมีงบประมาณสนับสนุนอย่างเพียงพอ
ส่วนการจัดเก็บภาษีการศึกษา พบว่าประชาชน 61.13 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่เห็นด้วย ขณะที่ 27.11 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเห็นด้วย เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับทางออกของปัญหาแป๊ะเจี๊ยะ พบว่า ประชาชน 34.18 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าควรแก้ไขที่ตัวบุคคลทั้งผู้บริหาร ผู้ใหญ่ ครู และผู้ปกครอง รวมทั้งขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของทุกคน รองลงมา 33.31 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าควรใช้มาตรการ กฎ ระเบียบที่เด็ดขาด มีบทลงโทษกับสถานศึกษาที่เรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ 28.38 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าควรประกาศคะแนนสอบตามลำดับ 16.22 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า ควรประกาศจำนวนรับสมัครที่ชัดเจน 8.74 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าควรยกเลิกการจับสลากเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2.31 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าควรเก็บภาษีการศึกษาเหมือนรีดภาษีบาป 3.90 เปอร์เซ็นต์ ระบุอื่นๆ ได้แก่ ควรลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ควรเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กอย่างเท่าเทียมกัน ไม่สร้างค่านิยมเกี่ยวกับชื่อเสียงของโรงเรียนมากเกินไป นอกจากนี้ควรปฏิรูปทางการศึกษาทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพทางการศึกษา หลักสูตร มาตรฐานทางวิชาการ พร้อมตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการจ่ายแป๊ะเจี๊ยะหรือไม่ ทั้งนี้หน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล หน่วยงานทางการศึกษา รวมถึงประชาชนและผู้ปกครองควรมีส่วนในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย ทั้งนี้หากแก้ไขไม่ได้ควรบริจาคเป็นสิ่งของ หรือจำกัดวงเงินในการบริจาค หรือเพิ่มโควต้าจำนวนการรับนักเรียนในแต่ละแห่งให้มากขึ้นและ 0.40 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก.

