เปิดสาระสำคัญ พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ 2560 ชี้อนาคตคนไทย
"...ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคีปรองดอง มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุกับการพัฒนาด้านจิตใจ .. สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ํา...ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..."

"...เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 259 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีวิธีการจัดทําแผน การมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขั้นตอนในการดําเนินการปฏิรูปประเทศ การวัดผลการดําเนินการ และระยะเวลาดําเนินการปฏิรูปประเทศทุกด้าน จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้.."
นี่คือ เหตุผลที่ปรากฎอยู่ท้าย พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา และราชกิจจาบุเบกษา ได้มีการเผยแพร่เป็นทางการ ในช่วงบ่ายวันที่ 31 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา
เนื้อหาในพ.ร.บ.ฯ มีจำนวน 33 มาตรา 3 หมวด 1 บทเฉพาะกาล
ระบุใน หมวด 1 การปฏิรูปประเทศ มาตรา 5 ว่า การปฏิรูปประเทศต้องดําเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ ดังต่อไปนี้
(1) ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคีปรองดอง มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุกับการพัฒนาด้านจิตใจ
(2) สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ํา
(3) ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขการปฏิรูปประเทศต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ
มาตรา 7 ระบุว่า แผนการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(1) แผน ขั้นตอน และวิธีการดําเนินการปฏิรูปประเทศ และผลอันพึงประสงค์ในด้านที่จะดําเนินการปฏิรูป ซึ่งต้องสอดคล้องกับผลที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติ
(2) กําหนดระยะเวลาที่ต้องดําเนินการในแต่ละขั้นตอนตามลําดับในลักษณะที่เป็นการบูรณาการและตัวชี้วัดผลการดําเนินการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้าน
(3) การกําหนดหน่วยงานของรัฐหรือบุคคลที่รับผิดชอบการดําเนินการตาม (1) และ (2)
(4) วงเงินที่คาดว่าจะใช้ในการดําเนินการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้านหรือแต่ละเรื่องตามมาตรา 8 แล้วแต่กรณี รวมตลอดทั้งประมาณการของแหล่งที่มาของเงิน
(5) ผลสัมฤทธิ์ในการดําเนินการปฏิรูปประเทศที่คาดหวังว่าจะบรรลุภายในระยะเวลาห้าปี
(6) การเสนอให้มีหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่จําเป็นเพื่อดําเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศการจัดทําแผนการปฏิรูปประเทศตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณาความเร่งด่วนของการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้านเพื่อกําหนดลําดับขั้นตอนในการปฏิรูปประเทศ และต้องคํานึงถึงความพร้อมทางด้านบุคลากรและการเงินการคลังของประเทศด้วย
มาตรา 8 ให้จัดทําแผนการปฏิรูปประเทศในด้าน ดังต่อไปนี้
(1) ด้านการเมือง
(2) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
(3) ด้านกฎหมาย
(4) ด้านกระบวนการยุติธรรม
(5) ด้านการศึกษา
(6) ด้านเศรษฐกิจ
(7) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(8) ด้านสาธารณสุข
(9) ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ
(10) ด้านสังคม
(11) ด้านอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
ขณะที่ มาตรา 10 ระบุว่า การปฏิรูปประเทศในแต่ละด้านให้ดําเนินการตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
(1) ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตามมาตรา 8
(2) ให้ที่ประชุมร่วมกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดทําร่างแผนการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตาม (1) แล้วเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในสิบห้าวัน และ
(3) ให้เริ่มดําเนินการจัดทําแผนการปฏิรูปประเทศตามกระบวนการและระยะเวลาที่กําหนดไว้ในมาตรา 11
ซึ่งมาตรา 11 ระบุถึงการการจัดทําร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ให้ดําเนินการตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
(1) ให้คณะกรรมการปฏิรูปจัดทําร่างแผนการปฏิรูปประเทศในด้านที่รับผิดชอบให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พ้นกําหนดเวลาตามมาตรา 10 (2) แล้วเสนอที่ประชุมร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในสามสิบวัน
(2) เมื่อที่ประชุมร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศแล้ว ให้เสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ซึ่งต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่าง
(3) ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอร่างแผนการปฏิรูปประเทศที่ผ่านการพิจารณาแล้วต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในสามสิบวัน และดําเนินการตามมาตรา 6 วรรคสอง
ต่อไป
ในการดําเนินการตาม (1) ให้คณะกรรมการปฏิรูปเชิญหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศในด้านนั้น เข้าร่วมชี้แจงหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการดําเนินการ รวมทั้งจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยวิธีการที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและแสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะได้โดยสะดวกและทั่วถึง ทั้งนี้ ต้องมีการแสดงข้อมูลที่เพียงพอแก่การที่ประชาชนจะเข้าใจและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ด้วย
ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปคณะใดภายหลังพ้นกําหนดเวลาตามมาตรา 10 (2)การนับเวลาตามที่กําหนดไว้ใน (1) ให้เริ่มนับตั้งแต่วันท่มีีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปคณะนั้นระยะเวลาการดําเนินการตามที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง คณะรัฐมนตรีโดยข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปก็ได้ตามความจําเป็น
ขณะที่ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านประกอบด้วยคณะกรรมการคณะหนึ่งหรือหลายคณะที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
โดยแต่ละคณะให้ประกอบด้วย ประธานกรรมการปฏิรูปคนหนึ่ง และกรรมการปฏิรูปจํานวนไม่เกินสิบสามคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในด้านที่จะดําเนินการปฏิรูปโดยคํานึงถึงความหลากหลายของผู้มีประสบการณ์ในภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องประกอบกัน
ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการปฏิรูปและเลขานุการคนหนึ่งตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการและให้เลขาธิการแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความเหมาะสม
โดยกรรมการปฏิรูปต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่เกินเจ็ดสิบห้าปี
มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละห้าปี ซึ่งกรรมการปฏิรูปซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
และในวาระเริ่มแรก ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตามมาตรา 8 ให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (นับจากวันที่ 31 ก.ค.2560)
ซึ่งในระหว่างการจัดทําร่างแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 11 ในวาระเริ่มแรก หากคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ในการเร่งรัดให้การดําเนินการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์และแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กําหนด คณะรัฐมนตรีอาจมีมติให้กรรมการปฏิรูปผู้ใดพ้นจากตําแหน่งได้ โดยมิให้นํามาตรา 16 (5) มาใช้บังคับ
(อ่านพ.ร.บ.ฉบับเต็มได้ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/079/13.PDF)
ทั้งหมดนี่ คือ เนื้อหาสาระสำคัญที่ปรากฎอยู่ใน พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดําเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 และชี้ให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ว่าอนาคตของประเทศไทยหลังการปฏิรูป
นับจากนี้จะก้าวเดินไปทางไหน?
