คมนาคมแย้มค่ารถเมล์-แท็กซี่มีโอกาสขึ้น
รองปลัดกระทรวงคมนาคมยอมรับค่าโดยสาร"รถเมล์-แท็กซี่"มีโอกาสขึ้น อ้างเหตุต้นทุนผู้ประกอบการขึ้นจริงก็ควรยอม
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สัมภาษณ์ในรายการเก็บตกจากเนชั่น กล่าวถึงกรณีการขอปรับราคาค่าโดยสารของรถเมล์ และรถแท็กซี่ ว่า เมื่อมีการรปรับตัวของราคาต้นทุนเกิดขึ้น ตนคาดว่าทางราชการที่ดูพิจารณาก็คงจะต้องมีการพิจารณาให้ปรับขึ้นตามความเหมาะสม แต่จะขึ้นราคาเท่าไรนั้นคงจะต้องอยู่ระยะเวลา ความพร้อม เพราะหากมีการปรับราคาค่าโดยสารขึ้นตามราคาน้ำมันที่ขึ้นแล้ว แต่ต่อมาอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาราคาน้ำมันกลับปรับตัวลดลง เมื่อเป็นอย่างนี้ราคาค่าโดยสารที่ปรับขึ้นแล้วเราจะทำอย่างไร หน่วยงานที่ดูแลจะต้องปรับราคาค่าโดยสารลดตามราคาน้ำมันหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร อันดับแรกคือความเสถียรของราคาการจำหน่ายน้ำมันในประเทศ เรื่องต่อมาทุกครั้งที่มีการปรับราคาน้ำมันก็จะมีคณะกรรมการที่ดูมาพูดคุยกัน
"การขึ้นราคาค่าโดยสารไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ และรถเมล์โดยสาร ซึ่งเมื่อมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารก็จะเกิดผลกระทบตามทันทีโดยตรง คือ จำนวนผู้โดยสารที่ลดลง และที่สำคัญในการปรับราคาค่าโดยสารทุกครั้งจะมีกลุ่มผู้ประกอบการที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เพราะเขาเห็นว่าการปรับราคาค่าโดยสารขึ้นก็จะทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลง ผู้โดยสารจะหันไปใช้บริการขนส่งประเภทอื่น"นายศิลปชัยกล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากวันที่ 16 ที่บ.ปตท.จะเลิกอุดหนุนราคาก๊าซ จะส่งผลให้มีการปรับราคาค่าโดยสารแท็กซี่เลยใช่หรือไม่ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ก็คงจะต้องมีการปรับราคาขึ้นแน่ เนื่องจากรคาคาต้นทุนของผู้ขับแท็กซี่ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนจะมีการปรับราคาขึ้นหรือไม่ จะปรับขึ้นเท่าไรนั้น ตนคงไม่สามารถที่จะบอกได้ เนื่องจากจะต้องมีการศึกษาปัจจัยในเรื่องต่างๆ ให้มีความรอบคอบเสียก่อน และการปรับราคาค่าโดยสารขึ้นเราจะต้องดูจุดที่มีความเหมาะสมที่สุด เราถึงจะเลือกตัวเลขตรงนั้น และที่สำคัญซึ่งหากมีการให้ปรับราคาค่าโดยสารได้แล้ว ทางกรมขนส่งจะต้องเรียกแท็กซี่ทั้งหมดเข้ามาทำการปรับมิเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะให้มองว่าการปรับอัตราค่าโดยสารการขนส่งนั้น ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องซีเรียสมากนัก ตนอยากจะให้มองเป็นเรื่องของกลไกตลาด

