ศาลอุทธรณ์จำคุก2ปีคดีพระเกษมดูหมิ่นศาสนา
ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกพระเกษม2ปีปรับ2หมื่นบาทคดีตบหน้าพระพุทธรูปดูหมิ่นพระศาสนาแต่ให้รอลงอาญา2ปี
นายสมิต ยอดพรม ผู้พิพากษาศาลจังหวัดหล่มสัก และคณะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่อัยการจังหวัดหล่มสัก เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระเกษม อาจิณณฺสีโล หรือนายดวงแพง ดวงมาก ในข้อหาดูหมิ่นพระพุทธศาสนา กรณีจำเลยเหยียบฐานพระพุทธชินราชจำลอง และใช้ฝ่ามือด้านขวาตบไปที่พระพักตร์ พร้อมทั้งนำแผ่นป้ายข้อความที่ระบุว่า ทองเหลืองหล่อนี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้า อย่าไปกราบไหว้มัน เหตุเกิดเมื่อ 27 พ.ย.2551 ที่ศาลาสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำพิพาษาศาลชั้นต้น และประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นพ้องกับคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่ว่า พระเกษมถือเป็นพระผู้ใหญ่ ซึ่งบวชและศึกษาพระธรรมมามานาน แต่กระทำตนที่ไม่เหมาะสม บังอาจ เหยียดหยาม ดูหมิ่นพระพุทธรูป ที่ทุกคนส่วนใหญ่ให้การเคารพบูชาจริงจึงมีความผิดตามมาตรา 91 และ 206 จึงลงโทษให้จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ส่วนโทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี เนื่องจากไม่เคยก่อความผิดมาก่อน
พระเกษม กล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า ยอมรับในคำตัดสินแต่จะต้องสู้ไปให้ถึงที่สุด ยอมรับว่าเมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินออกมาเช่นนี้ก็ผิดวินัยแน่นอน ชาวพุทธตัดสินอย่างนี้ ฉะนั้นต้องไปฏีกาเพื่อให้ลูกหลานได้เรียนต่อ ส่วนฝ่ายสงฆ์ถ้าเป็นไปตามพระวินัยก็ไม่มีอะไรเลย มีแต่ฝ่ายที่ร้องอาตมาต้องไปแก้โทษกันเอาเอง
สำหรับการเดินทางมารับฟังคำตัดสินของพระเกษมวันนี้มีลูกศิษย์ จำนวนมากเดินทางมาจากหลายพื้นที่เพื่อมาเป็นกำลังใจให้กับพระเกษม ในครั้งนี้ด้วย ในด้านความปลอดภัยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบเพื่อมารักษาความสงบภายในบริเวณศาลอย่างเข้มงวด
