ชาวบ้าน 5 จว.อันดามัน เตรียมยื่น ครม.สัญจร แก้ปัญหาร้อนชาวเล-โฉนดชุมชน
ชาวบ้าน 2 พันคน 5 จว.อันดามัน ประกาศต้อนรับ ครม.สัญจรภูเก็ต ยื่นแก้ปัญหาร้อน 41 ชุมชนชาวเลถูกไล่ที่-รุกสุสาน จี้ รบ.ทำตามมติ ครม.คุ้มครองวิถีชนเผ่า ผลักโฉนดชุมชน 55 พื้นที่
วันที่ 17 มี.ค.55 นายไมตรี จงไกรจักร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิ เปิดเผยว่า 18-20 มี.ค. ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเยือนจ.ภูเก็ตและมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดแถบอันดามันได้นัดรวมตัวกันต้อนรับนายกฯ พร้อมจัดทำเอกสารสรุปประเด็นปัญหาต่างๆของชาวบ้านที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาชาวเลที่กำลังถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อาศัย สุสานบรรพบุรุษก็ถูกนายทุนฟ้องขับไล่ ทั้งนี้ชาวเลจังหวัดในทะเลอันดามัน โดยเฉพาะภูเก็ต 1,000 คนจะร่วมกันทำกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อให้สังคมได้เข้าใจความมีตัวตนของพวกเขา
นายไมตรี กล่าวอีกว่า ยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีอื่นๆอีกราว 1,000 คนจะเดินทางมารวมตัวกันที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ 1.ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาชาวเลที่ราไวย์อย่างเร่งด่วน ทั้งปัญหาที่ดินที่เอกชนออกเอกสารทับที่อยู่อาศัยชาวเลกว่า 2,000 คน ทั้งยังถูกฟ้องขับไล่ ไม่มีที่ทำกินในทะเลเพราะการประกาศเขตอนุรักษ์และอุทยานทางทะเล ทำให้ชาวเลถูกจับและตั้งข้อหาบุกรุกทำกินในเขตอนุรักษ์ ทั้งที่มีมติ ครม. 2 มิ.ย.53 รับรองเรื่องเขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเล จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งแต่งตั้งกรรมการเขตวัฒนธรรมพิเศษชาวเลตามมติ ครม. เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล รวมทั้งชนเผ่าใน 41 ชุมชนอย่างเร่งด่วนก่อนที่คนกลุ่มนี้จะไม่มีผืนดินอยู่
2.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโฉนดชุมชน ตามข้อเสนอของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส) 55 พื้นที่ ตามที่มีการรับรองพื้นที่ให้เข้าถึงบริการของรัฐ เช่น ไฟฟ้า ประปา โดยใช้ชุมชนปลากระตัก ในภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง และขอให้เร่งดำเนินการในอีก 435 พื้นที่ทั่วประเทศที่ยื่นขอออกโฉนดชุมชน 3.ให้รัฐบาลเร่งตั้งกรรมการและอนุกรรมการทั้ง 12 ชุด ตาม มติ ที่ประชุมขปส.ซึ่งเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์)เป็นประธานกรรมการและ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี( นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล) เป็นประธานที่ประชุม ครั้งที่ 1 วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา
“ชาวบ้านทั้ง 2,000 คนที่มารวมตัวกันนี้มีความเดือดร้อนจริงๆ และไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล พวกเราจะมุ่งเน้นกิจกรรมด้านวิถีวัฒนธรรม เราอยากให้รัฐบาลเห็นความสำคัญตรงนี้ด้วย” นายไมตรี กล่าว
นางปรีดา คงแป้น ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท กล่าวว่า ชาวเลเป็นกลุ่มคนดั้งเดิมในท้องทะเลอันดามันและรักสันโดษมีชีวิตเรียบง่าย ปัจจุบันเลกระจายตัวในชายฝั่ง จ.ภูเก็ต ระนอง กระบี่และสตูล 41 ชุมชน 17,485 คน คนเหล่านี้ต้องเผชิญาวิกฤตอันเป็นผลพวงจากการพัฒนา ทั้งนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และการประกาศเขตอนุรักษ์ทางทะเล ปัจจุบันมีชาวเลถึง 25 ชุมชนที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดินและบางแห่งถูกฟ้องขับไล่ทั้งๆที่พวกเขาอยู่กันมาก่อน จำนวนนี้มี 15 แห่งที่สุสานและพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ถูกบุกรุก
“ในหลายพื้นที่ผู้หญิงชาวเลไม่สามารถหาหอยตามโขดหินได้เพราะอยู่ไกล้โรงแรมและรีสอร์ท ขณะที่ผู้ชายก็ไม่สามารถดำน้ำหาปลาได้เหมือนเมื่อก่อนเพราะเจ้าของรีสอร์ทจัดเตรียมไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวดู ทั้งๆที่พื้นที่เหล่านั้นพวกเขาหากินกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ นอกจากนี้ชาวเลยังมีปัญหาเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยกว่า 500 คนยังไม่มีบัตรประชาชน” นางปรีดากล่าว
ด้านนายธีระ สลักเพชร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนตามมติ ครม.เกี่ยวกับชาวเลและกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้มีการตั้งคณะคณะกรรมการขึ้นมาดูแล ซึ่งหากรัฐบาลสนับสนุนให้เดินหน้าต่อไปจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการจัดการปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งสมัยตนได้สนับสนุนงบประมาณให้จัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชาวเลขึ้นที่ จ.ภูเก็ต นอกจากนี้ในปี 2555 ทราบมาว่า วธ.ยังได้ตั้งงบประมาณไว้สำหรับงานงานด้านนี้อีก 10 ล้าน
“หากท่านนายกฯมอบเรื่องนี้เป็นนโยบายและให้ รมว.วธ.เข้าไปดูแลอย่างจริงจัง โดยใช้กลไกลคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว จะสามารถแก้ปัญหาชาวเลได้อีกหลายเรื่อง ทั้งด้านที่ทำกิน วิถีวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดี และกลายเป็นแบบอย่างด้านการท่องเที่ยว อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเดินทางมาอันดามัน ยังขอพบชาวเลเลย” นายธีระกล่าว .
ที่มาภาพ : http://bit.ly/FPJDZk