'ปู'เผยครม.ไฟเขียวจัดซื้อแท็บเล็ตแล้ว
'นายกฯ' เผย ครม.เห็นชอบจัดซื้อแท็บเล็ตแบบเอ็มโอยูแล้ว มั่นใจหากขึ้นค่าแรง เอกชนให้ความร่วมมือ สั่งบูรณาการ ก.แรงงาน-ก.อุตสาหกรรม รับเวทีอาเซียน
20 มี.ค.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามโครงการ One Tablet PC Per Child โดยจะเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจากระบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี มาเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือเอ็มโอยูว่า เบื้องต้น ครม.มีมติเห็นด้วยกับกรอบโครงในการจัดซื้อแท็บเล็ต แต่ในขั้นตอนการปฎิบัติต้องเป็นไปตามเงื่อนไขระเบียบวัสดุ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเรื่องขึ้นค่าแรง 300 บาทในวันที่ 1 เมษายนนี้ มีบริษัทเข้าร่วมกี่บริษัท น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รายละเอียดจำนวนตนไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องของความร่วมมือ ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือไตรภาคี ในการตกลงร่วมกัน 3 ฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่า เราเองต้องมีแผนงานที่จะพัฒนาฝีมือคุณภาพแรงงานด้วย เพราะเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอีกหน่อยถ้าจะเปิดดิวทีสู่อาเซียนการพัฒนาฝีมือแรงงานมีความจำเป็นและการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับทางโรงงานได้สร้างการให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรมบูรณาการร่วมกันในการเข้าไปช่วยเหลือโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มของเอสเอ็มอี เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาคุณภาพฝีมือแรงงานเพื่อให้มีผลผลิตที่ดีขึ้นซึ่งได้มีมาตราการทั้งหมดออกมาแล้ว ซึ่งเป็นมติครม.ในที่ประชุมร่วมกัน นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังได้มีการพิจารณาแก้ไขปัญหาสินค้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยรายละเอียดทางทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้ไปเดินตรวจเยี่ยมชมการแสดงศักยภาพความสามารถของสตรีไทยจากหลากหลายอาชีพในการรับมือกับเหตุภัยพิบัติของประเทศ ขณะเดียวกันตลอดการประชุมครม.ที่มหาวิทยาลัยสงขลานคริทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ได้มีการจัดเตรียมเฮลิคอร์ปเตอร์ไว้จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นของทหารและตำรวจ เพื่อเตีียมไว้เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน ให้กับนายกรัฐมนตรีหากมีเหตุการความไม่สงบ แต่ปากฎว่าไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มีแต่เพียงหญิงคนเสื้อเหลืองวัยกลางคนมาดักรอนายกรัฐมนตรีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพียง 1 คนเท่านัน ซึ่งนายกฯได้เดินผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
'อนุดิษฐ์'แจง'แท็บเล็ต'ใช้'เอ็มโอยู'เพื่อลดความเทอะทะ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า วันนี้ได้มีการขอความเห็นชอบจากครม.ในเรื่องของการเปลี่ยน จีทูจี เป็น เอ็มโอยู เพื่อลดระเบียบ ความเทอะทะ ที่เป็นรูปแบบของทางการกับทางการ หลังจากนี้กระทรวงไอซีทีจะไปทำร่างสัญญาร่วมกับบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งหากไม่เปลี่ยนแปลงก็ก็คือบริษัท เซินเจิน สโคป ไซ แอนติฟิก เดเวอร์ลอปเมนท์ จำกัด และนำร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ คาดว่ากระบวนการจะเสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้
โดยในร่างสัญญาดังกล่าวจะมีรายละเอียดทุกอย่างชัดเจน เช่น การสั่งซื้อจำนวนกี่เครื่อง วงเงินเท่าไหร่ เมื่อผ่านการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดกลับมายังกระทรวงไอซีที โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ ก็สามารถลงนามได้ทันที และถือเป็นการตกลงจัดซื้ออย่างสมบูรณ์ เดินหน้าผลิตได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเสนอขอความเห็นชอบจากครม.อีก ทั้งนี้หากมีการเซ็นสัญญาลงนามอย่างเป็นทางการ จะเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง

