รัฐปรับสูตรผลตอบแทนกบข.นัดสรุป 30 มี.ค.
รัฐบาลเร่งหาข้อสรุปปรับสูตรคำนวณเงินบำนาญแก่สมาชิก กบข.หลังจากสมาชิกกว่าพันคนเดินขบวนเรียกร้องขอความเป็นธรรม นัดสรุป 30 มี.ค.นี้
เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) เวลา 09.00 น. สมาชิกองค์กรเครือข่ายสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จำนวนหลายพันคน นำโดยนายวิศร์ อัครสันตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข.ร่วมชุมนุมเรียกร้องให้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การคำนวณเงิน กบข.ตามมาตรา 63 เพื่อให้ได้รับบำนาญที่สูงขึ้นลาออกได้ ตายให้ได้รับประโยชน์ที่เป็นธรรม และให้มีผลย้อนหลังไปถึงผู้เกษียณอายุราชการแล้ว เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เอารัดเอาเปรียบก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย ไม่เป็นธรรมแก่ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข.เป็นอย่างมาก เพราะสมาชิกสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล ไม่ได้ดูแลสมาชิกในวัยเกษียณตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
โดย นายวิศร์ กล่าวว่า ได้ขอเข้าพบตัวแทนของรัฐบาลเพื่อเร่งรัดให้มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว เพราะสมาชิกเรียกร้องต่อสู้มานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยคิดว่ากฎหมายที่ใช้อยู่เป็นกฎหมายอัปยศ เอารัดเอาเปรียบสมาชิกมากมาย ทำให้สมาชิกเดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ถ้าไม่มีการแก้กฎหมาย สมาชิกก็ไม่ต้องการให้มี กบข.แล้ว ถ้ายกเลิกจะเป็นการดีที่สุด
ขณะที่ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกำลังเร่งแก้ไขปัญหากรณีข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข.เรียกร้องให้มีการปรับสูตรการคำนวณผลตอบแทนเงินบำนาญที่สมาชิกจะได้รับหลังจากเกษียณอายุ โดยในวันที่ 30 มี.ค. นี้ กรมบัญชีกลางจะร่วมหารือกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว หลังจากสมาชิก กบข.ประมาณพันคน ได้รวมตัวกันเดินขบวนบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว
สำหรับสูตรในการคำนวณเงินบำนาญนั้น ขณะนี้ ได้พิจารณาในหลายแนวทาง แต่ละแนวทางจะต้องพิจารณาถึงงบประมาณที่จะต้องใช้ประกอบด้วย ขณะเดียวกัน ในบางแนวทางจะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย เช่น การจำกัดเงินบำนาญไว้ไม่เกิน 70% ของเงินเดือนสุดท้าย เป็นต้น ซึ่งกรณีดังกล่าว กำลังพิจารณาว่า จะปรับเพิ่มเป็นจำนวนเท่าใดระหว่าง 75% หรือ 80% ของเงินเดือนสุดท้าย
"มีหลายแนวทางที่เรากำลังดูอยู่ เช่น ปรับสูตรการจำกัดเงินบำนาญให้สูงกว่า 70% แต่เราจะพิจารณาให้เฉพาะสมาชิกที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก กบข.ในปีแรก คือ ปี 2540 เท่านั้น และ ก็ต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณที่จะต้องใส่เพิ่มไว้ด้วย อย่างไรก็ดี สำหรับข้าราชการบำนาญที่เกษียณอายุไปแล้ว ก็จะพิจารณาเงินบำนาญให้ตามความเหมาะสมด้วย"เขากล่าว
ทั้งนี้ สำหรับสูตรการคำนวณผลตอบแทนเงินบำนาญหลังเกษียณแก่สมาชิก กบข.ในปัจจุบัน คือ เงินเดือนเฉลี่ยของสมาชิกในช่วง 60 เดือนสุดท้ายของการรับราชการคูณด้วย อายุงาน แล้วหารด้วย 50 โดยตัวเลขที่ได้ออกมานั้น จะต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย ประเด็นก็คือ การจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 70% ต่ำไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการแก้ไขสูตรในการคำนวณผลตอบแทนหรือไม่ กระทรวงการคลัง จะไม่ถอยหลัง กลับไปสู่ระบบเดิม คือ ระบบที่รัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงินบำนาญให้กับข้าราชการเกษียณตลอดชีวิต ซึ่งเป็นภาระต่อรัฐบาลทั้งนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เคยคำนวณว่าหาก ต้องกลับไปสู่ระบบเดิม รัฐจะต้องเตรียมงบประมาณไว้ ประมาณ 5 แสนล้านบาทในการจ่ายเงินบำนาญให้กับข้าราชการ
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นในเรื่องที่ข้าราชการร้องเรียนว่า ในช่วงก่อตั้ง กบข.นั้น คลัง ได้ชักชวนให้ข้าราชการ เข้ามาเป็นสมาชิก โดยระบุว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยของเงินสะสมในกบข.จะอยู่ที่ 9% แต่ในช่วงที่ผ่านมา ผลตอบแทนของ กบข.ไม่เคยถึง 9% เลย โดยเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 4.85% ทำให้เกิดข้อร้องเรียนจากสมาชิก กบข.แต่ในความจริงแล้ว กบข.ไม่ได้มีการการันตีผลตอบแทนที่ 9% เพียงแต่ว่า ในช่วงการจัดตั้ง กบข.นั้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในวันนั้นอยู่ที่ 14% จึงมีการคำนวณผลตอบแทนในช่วงนั้นว่า น่าจะอยู่ที่ 9%
อย่างไรก็ตาม คลัง กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่า จะชดเชยอย่างไร สำหรับข้าราชการที่สมัครเป็นสมาชิกกบข.ในปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบบำนาญเดิมไปสู่ระบบ กบข. โดยอาจผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ อีก 1-2 %
ทั้งนี้ รัฐได้ปรับระบบการจ่ายเงินบำนาญจากรัฐจ่ายฝ่ายเดียวมาเป็นระบบร่วมสะสมเงินในอัตรา 5% ของเงินเดือน โดยจัดตั้งกองทุน กบข.ขึ้นมาบริหารเงินก้อนนี้และให้ข้าราชการเลือกว่าจะใช้ระบบใดในปี 2540 อย่างไรก็ตาม ข้าราชการที่สมัครและไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกกบข.ยังคงมีสิทธิ์เลือกรับเงินบำนาญรายเดือนหรือเงินบำเหน็จหลังเกษียณ
ปัจจุบันมีข้าราชการบำนาญในระบบประมาณ 4 แสนคน รัฐบาลมีภาระงบประมาณรายจ่ายในส่วนนี้ประมาณ 8 พันล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 1 แสนล้านบาทต่อปี
กบข.ชี้การันตีผลตอบแทนไม่ได้
ด้าน นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กบข.กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกเรียกร้องให้มีการแก้ พ.ร.บ. มาตรา 59 และ มาตรา 63 ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ กบข. เป็นเรื่องของกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับสูตรบำเหน็จบำนาญ ที่ผ่านมากรมบัญชีกลางก็อยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ คงต้องใช้เวลา
ส่วนข้อเรียกร้องการจ่ายผลตอบแทนกลับคืนสมาชิกนั้น โดยปกติ กบข.ก็จะคืนเต็มเงินจำนวนให้กับสมาชิกอยู่แล้วหากครบกำหนดเกษียณอายุ ขณะที่เรื่องของผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับการลงทุน กบข.ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะต้องจ่ายขั้นต่ำเท่าไร
"การที่สมาชิกอ้างว่ากบข.เคยการันตีผลตอบแทนที่ 9% นั้น คงเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยอาจจะอ้างอิงผลตอบแทนในช่วงปี 2540 ที่เคยทำผลตอบแทนสูงสุดไว้ที่ 9% สมาชิกจึงคาดหวังว่าทุกปีจะได้เหมือนเดิม ซึ่งจริงๆ แล้ว เราไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ ขึ้นอยู่กับการลงทุนในแต่ละปี"

