เตือนแทรกแซงค่าเงินฝืนตลาด ซ้ำรอยปี'40
นักวิชาการเตือน"กิตติรัตน์"ส่งสัญญาณบาทอ่อน สั่งแบงก์ชาติแทรกแซงตลาด ฝืนกลไกค่าเงิน หวั่นซ้ำรอยปี"40
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นผ่านรายการ "ชั่วโมงธุรกิจ"ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชลแนล ถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาส่งสัญญาณให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินนโยบายค่าเงินบาทอ่อน โดยคาดหวังว่าจะกระตุ้นการส่งออก ว่า ไม่อยากให้กำหนดเป้าหมายว่าค่าเงินบาทควรอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนกับที่เกิดวิกฤติค่าเงินบาทในปี 2540 และอยากจะถามว่า อยากให้ค่าเงินบาทอ่อนไปเพื่ออะไร
"ปัญหาการส่งออกของไทยในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ค่าเงินบาทต้องอ่อนแค่ไหน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาเศรษฐกิจโลกที่หดตัว จี 3 เศรษฐกิจก็ไม่ดี เศรษฐกิจจีนก็ขยายตัวลดลง แม้ค่าเงินบาทจะอ่อนลง ก็เกรงว่าจะไม่ทำให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น"
นายพรายพล กล่าวว่า การที่ค่าเงินบาทอ่อนจะทำให้มีปัญหาอื่นตามมา ซึ่งนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ให้ความเห็นไว้ชัดเจนแล้วว่า จะส่งผลกระทบกับราคาขายปลีกน้ำมัน ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น
"ผมเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยมีกฎเกณฑ์ในการแทรแกซงค่าเงินอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ค่าเงินผันผวน และอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเหมาะสมแล้ว"
นักวิชาการประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวอีกว่า คิดว่านโยบายการแทรกแซงค่าเงินบาท ไม่ให้มีความผันผวน ไม่ควรกำหนดเป้าหมายว่าค่าเงินบาทควรที่จะอ่อนหรือแข็ง และการที่ส่งสัญญาณให้ ธปท.เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท เพื่อให้อ่อนลง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลดเงินทุนไหลเข้าเก็งกำไรค่าเงินบาท ก็ไม่ดีแน่นอน เพราะไม่ว่าค่าเงินบาทจะอ่อนหรือแข็ง ก็สามารถเก็งกำไรได้ทั้งคู่ และเป็นการฝืนกลไกตลาด อาจทำให้ซ้ำรอยวิกฤติปี 2540

