มอบรางวัล “เล่าเรื่องโกง” ศิลปินแห่งชาติ แนะอย่าเป็นต้นอ้อลู่ลมตามการคอร์รัปชั่น
โครงการ "เล่าเรื่องโกง" ชี้สื่อทางศิลปะเข้าถึงคนได้ง่าย หวังปลุก-ปลูกจิตสำนึกต้านคอร์รัปชั่น ย้ำให้เริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเอง อย่ามองการโกงเป็นเรื่องธรรมดา จะแก้ยาก ฝังลึก
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่งานสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 2 เพิ่มพลังพลเมือง สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ณ ไบเทค บางนา มีเวทีเสวนา "Hot Shot Film เล่าเรื่องโกง เปิดโปงกระแสสังคมคอร์รัปชั่น" ซึ่งเป็นโครงการที่ เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป สำนักงานปฏิรูป สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส.) ร่วมกับ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย กองทุนศรีบูรพา สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และเครือข่ายสังคมคุณธรรม ศูนย์คุณธรรม ริเริ่มขึ้น โดยมี นายพัฒนะ จิรวงศ์ ผู้แทนสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย นายอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ผู้กำกับโฆษณา ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (ว.วินิจฉัยกุล)ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2547 นายเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ กวีซีไรท์ พ.ศ.2547 ร่วมเสวนา
นายอนุชัย กล่าวว่า เรื่องการโกง หรือการคอร์รัปชั่นไม่ใช่เรื่องไกลตัว การทำหนังในโครงการครั้งนี้ จึงต้องการนำเสนอให้ทุกคนได้เห็นว่า มีเรื่องใกล้ๆ ตัว ที่ก็เป็นการโกง หรือการคอร์รัปชั่นมากมาย ซึ่งเกิดจากการที่ทุกคนมองข้าม และเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ทั้งที่ปัญหาใหญ่มากมายของประเทศไทย ล้วนมาจากเรื่องเล็กที่ทุกคนต่างมองข้าม
"ทุกคนไม่ต้องพยายามเป็นคนดีตลอดเวลา แค่ทำเรื่องดีๆ ในสังคมบ้างก็พอ และแม้เราไม่สามารถทำเรื่องใหญ่ เช่น หยุดการโกง การคอร์รัปชั่นของผู้อื่น แค่ให้เริ่มหยุดพิจารณาที่ตัวเองก่อน"
ขณะที่ดร.คุณหญิงวินิตา กล่าวว่า ปัจจุบันนี้การโกง หรือการคอร์รัปชั่นกลายเป็นเรื่องปกติของสังคม เช่น การไปดูงานต่างประเทศของข้าราชการ ที่แท้จริงแล้วผลที่ได้กลับเป็นการโกงอย่างหนึ่ง แม้อาจไม่ชัดเจนเท่ากับการยักยอกเงิน แต่ก็นับว่าสำคัญ เพราะการทำตัวเป็น "ต้นอ้อลู่ลม" ไปตามการโกงเช่นนี้ จะทำให้ปัญหาคอร์รัปชั่นอยู่ในสังคมไทยไปอีกนาน
"โครงการนี้ควรทำอย่างต่อเนื่อง เพราะกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลา คนไทยเราถนัดแต่คิดเรื่องใหม่ สิ่งใหม่ นโยบาย หรือนวัตกรรมใหม่ๆ แต่กลับรักษาสิ่งเหล่านั้นให้คงทน ยั่งยืนได้น้อยมาก"
ดร.คุณหญิงวินิตา กล่าวกับผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ สำนักข่าวอิศราด้วยว่า งานวรรณกรรม คือ การสื่อสารอย่างหนึ่งที่มีผู้รับในวงกว้าง ไม่เหมือนการเสวนากัน 2-3 คน ซึ่งเป็นความคิดในวงแคบ ฉะนั้น ความคิดที่นำเสนอผ่านวรรณกรรม จะมีผลกระทบต่อสังคมได้มาก และการนำเสนอความคิดของนักเขียน จะมีผู้รับสารจำนวนมาก อันจะเกิดพลังอย่างหนึ่งของวรรณกรรม ที่จะร่วมนำเสนอเรื่องการต่อต้านการโกง การคอร์รัปชั่น
"การสื่อสารไปถึงผู้รับ จะเป็นการจุดประกายความคิด และคนที่มีความคิดตรงกันจะมารวมความคิด และสามารถก่อตั้งหรือสร้างสรรค์สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ด้วยพลังทีมีจำนวนมาก เช่น การต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยที่นักเขียนเป็นเพียงผู้นำเสนอความคิดเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลา แต่ก็ดีกว่าการไม่เริ่มต้นทำอะไรเลย เพราะไม่มีอะไรที่แก้ไขได้อย่างปุบปับทันใจ ต้องค่อยเป็นค่อยไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายมีพิธีมอบเกียรติบัตร และรางวัล โครงการ "เล่าเรื่องโกง" ทั้งสื่อเรื่องสั้น หนังสั้นและละครเร่ โดยมี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป เป็นประธานในพิธีและมอบเกียรติบัตรให้แก่ นักเขียนเกียรติยศ ได้แก่ อัศศิริ ธรรมโชติ 2.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ 3.ชาติ กอบจิตติ 4.ประภัสสร เสวิกุล 5.ไพฑูรย์ ธัญญา 6.วินทร์ เลียววาริณ 7.บินหลา สันกาลาคีรี 8.เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ 9.ปราบดา หยุ่น 10.วัชระ สัจจะสารสิน 11.อุทิศ เหมะมูล และผู้กำกับกิตติมศักดิ์ ได้แก่ 1.เป็นเอก รัตนเรือง 2.นนทรีย์ นิมิบุตร 3.บัณฑิต ทองดี 4.ก้องเกียรติ โขมศิริ 5.อุรุพงษ์ รักษาสัตย์ 6.ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 7.โสภณ ศักดาพิศิษฐ์ 8.พิมพกา โตวิระ 9.ทราย เจริญปุระ 10.ชาคร ไชยปรีชา 11.อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง"
ในส่วนผลรางวัล ประเภท เรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรื่อง "หิ้ว" โดย นายไมเคิล เลียไฮ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรื่อง "ก็แค่เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องกระดาษ" โดย นายวุฒินันท์ ชัยศรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรื่อง "อีกฟากของสะพาน" โดย นายนิธิ นิธิวีรกุล สำหรับผลรางวัล ประเภท หนังสั้น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรื่อง "สี่แยก" โดย ทีมระเบียง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรื่อง "เหรียญ" โดย ทีมดวงดีโปรดักชั่น รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรื่อง"ไก่ตัวสุดท้าย" โดย ห่าง ห่าง ฟิล์ม และรางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ เรื่อง "ชัดเจน" โดย ทีมนำร่อง ซึ่งงานเขียนที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 22 เรื่องจะรวมเล่มเพื่อจำหน่าย และหนังสั้นทั้ง 20 เรื่องจะนำไปฉายในโรงภาพยนตร์และเผยแพร่ทางทีวีสาธารณะต่อไป
"ทีมนำร่อง" จากมหาวิทยาลัยบูรพา ตัวแทนผู้ได้รับรางวัลของโครงการ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า สื่อทางศิลปะ เช่น หนังสั้น ละครเร่ หรือเรื่องสั้น เป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนได้ง่าย และจะช่วยในการส่งสารเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่นได้พอสมควร ทั้งนี้ การนำเสนอเรื่องราวผ่านหนังสั้นของตน จึงต้องการบอกเล่ามุมมองเล็กๆ ใกล้ตัว ที่สะท้อนไปยังมุมมองระดับประเทศได้
"เมื่อนึกถึงคำว่า โกง ที่ใกล้ตัวที่สุดสำหรับวัยรุ่น หรือนักศึกษา ที่เป็นจุดเริ่มต้นสู่การโกงในภาพใหญ่ขึ้นไป และปัจจุบันนี้คนในสังคมมองว่าการโกง เป็นการ "ให้" จนดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา การต่อต้านคอร์รัปชั่น จึงนับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ต้องทำให้ได้ โดยเริ่มต้นจากการที่ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวเอง"
