“ดับทุกข์ สร้างสุข กับพระอาจารย์มิตซูโอะ"

ตลาดยามเช้า ในงานสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 มีการบรรยายธรรมจาก พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายใต้หัวข้อ “มองวิกฤติอย่างรู้เท่าทัน มองปัจจุบันอย่างมีความสุข” ความสุข สามารถหาได้จากสิ่งรอบตัว โดยเริ่มจาก จิต และลมหายใจ หาใช่ สิ่งของทางวัตถุไม่
พระมิตซูโอะ บอกว่า “คนเราจะมีความสุขได้นั้น ต้องเริ่มจากการสังเกตุในตัวเองก่อนว่า เราทุกข์จากเรื่องอะไร ทุกข์เพราะอะไร ใช่ความทุกข์ที่เกิดจากการไม่เข้าใจตัวเองหรือไม่ ทั้งในเรื่องของกิริยา ท่าทาง และคำพูด วิธีง่ายๆในการสังเกตุตัวเองคือการนั่งสมาธิ สิ่งเหล่านี้ เกิดจากประสบการณ์ที่เราเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก ทั้งการหัดพูด การหัดเดิน เป็นต้น โดยเริ่มจากพื้นฐาน เช่น การกำหนดลมหายใจให้ลึกๆ ยาวๆ อดีตที่ไม่สบายใจอย่านำมาคิด พร้อมกับยิ้มน้อยๆในใจ ถ้าทำติดต่อกันก็จะมีแต่ความสุข”
“หากเราเป็นโรคหัวใจอยู่ ขณะที่ทำการนั่งสมาธิ ก็ขอให้เราจินตนาการว่าเราหายแล้ว แถมแข็งแรงดี หากใครเป็นมะเร็ง ก็ให้กำหนดลมหายใจลึกๆยาวๆ ท่องไว้ร่างกายเราแข็งแรง เมื่อจิตใจดีขึ้น ร่างกายก็ดีขึ้นตาม” พระอาจารย์มิตซูโอะกล่าว
นอกจากนี้ความสุขยังมาจาก“การให้”อีกด้วย การให้ในที่นี้ สามารถแสดงออกได้หลายวิธี ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ผ่านการเป็นจิตอาสา เป็นต้น “การยิ้ม” ก็ถือเป็น การให้เช่นกัน ทั้งนี้การแสดงออกโดยสีหน้าที่ไม่พอใจนอกจากเราที่ทุกข์แล้ว คนที่เห็นเราในลักษณะเช่นนี้เขาก็เกิดความทุกข์ด้วย ตรงกันข้ามถ้าสายตา แววตามีแต่ความเมตตา ทั้งผู้ให้และผู้รับก็มีความสุข การไม่อิจฉาริษยา ก็มีความสุข การให้อภัยกัน ก็ถือเป็นการให้ความสุขซึ่งกันและกัน การมีชีวิตที่พอเพียง ตามแนวทางของในหลวงท่าน ชีวิตก็มีความสุข
เมื่อครั้งที่อาตมาไปประเทศญี่ปุ่นหลังเหตุการณ์การเกิดคลื่นสึนามิ เพื่อไปเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย อาตมามองว่า คนญี่ปุ่นมีความสุขมากขึ้น ที่ได้เห็นคนญี่ปุ่น ร่วมมือร่วมใจในการช่วยเหลือกัน โดยที่หน่วยงานทางราชการยังเข้าไม่ถึงแต่อย่างใด ทุกคนต่างช่วยเหลือกัน เห็นรอยยิ้ม ทุกคนก็มีความสุข ส่วนการเผยแพร่ทางสื่อ เกี่ยวกับเรื่องภัยสึนามิ ยอมรับว่า สื่อไทย กัยสื่อญี่ปุ่นมีความแตกต่างกัน อย่างสื่อญี่ปุ่น เข้าจะออกข่าวเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของประชาชน ซึ่งต่างจากสื่อไทย อย่างกรณีสึนามิที่ประเทศไทย มักเน้นข่าวในส่วนของความสูญเสียมากกว่า เท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำ ผู้รับสารก็ทุกข์ และทุกข์ไปตามๆกัน หรือล่าสุดกรณีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ก็มีการตีข่าวกันใหญ่โต ทั้งที่พื้นที่บางส่วนของกรุงเทพฯ ยังไม่ท่วมแต่อย่างใด ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย นี่ก็คือทุกข์อย่างหนึ่งที่ได้จากการรับสาร
ส่วนการเตรียมรับมือเหตุการณ์การเกิดอุทกภัยในอนาคตพระมิตซูโอะ ชี้ว่า “ตนเป็นที่พึ่งของตนเป็นดีที่สุด และการรักตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทำใจของเราให้เป็นไปตามธรรมชาติ ขณะที่เรื่องการประสานรอยร้าว จากเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง สิ่งสำคัญที่สุด คือการเมตตาตัวเองเป็นหลักก่อน ให้สมมุติว่า เราอยู่คนเดียวในโลก รู้จักเมตตาตัวเอง อยู่กับตัวเอง เมื่อเรามีเมตตาเราก็มีความสุขอยากให้มีการฝึกสมาธิอย่างน้อยวันละ 20 นาที”
การเกิดความไม่เป็นธรรม และเกิดความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ จึงเป็นเหตุให้หลายคนต้องเกิดทุกข์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราเรียนรู้ที่จะจัดการตนเอง พึ่งตนเอง ความสุขนั้น ก็จะมาจากตัวเรานั่นเอง เดินหน้าประเทศไทย ด้วยการสร้างพลังพลเมือง เพื่ออนาคตที่แข็งแรงของทุกคน...
