ป.เอก ธุรกิจบัณฑิตย์ ออกแบบ SDG Farm Model พัฒนาการเกษตรไทยยุคดิจิทัล
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ Syn Hub Co-Innovative Space พันธุ์ทิพย์พลาซ่า (ประตูน้ำ) ชั้น 4 นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้นำเสนอผลงานปฏิบัติการภาคสนามเพื่อการบริการวิชาการให้ชุมชน โดยการใช้สื่อ ICT เพื่อการขับเคลื่อนSDG SMART FARM ซึ่งมีแนวทางสำคัญในการใช้เทคโนโลยีองค์แบบรวมเพื่อกำหนดแนวทางการการพัฒนาภาคการเกษตรกรรมอย่างเป็นรูปธรรม

โดยการดำเนินงานโครงการนี้ นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ 10 สาขานิเทศศาสตร์ ได้ลงปฏิบัติการภาคสนาม จังหวัดบุรีรัมย์ ครั้งที่ 1 และได้ดำเนินการออกแบบ SDG Farm Model ตามรูปแบบธุรกิจ(Business Model Canvas)โดยให้ความหมายกับ SDG Farm Model ว่าคือองค์กรทางสังคมที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับชาวนาให้วสามารถติดต่อและแลกเปลี่ยนความรู้ในการทำเกษตรกรรมแบบเกษตรอินทรีย์ที่ได้ผลผลิตที่มีความปลอดภัยและเป็นวิธีการเกษตรกรรมแบบพอเพียง ดังนั้นโครงการพัฒนา SDG Farm Model จึงเป็นนวัตกรรมทางความคิดที่นำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยุติธรรม ตลาดจำหน่ายผลผลิตทางเกษตรกรรมสำหรับชาวนา และการทำเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
จากนั้น นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ 11 สาขานิเทศศาสตร์ ได้ลงปฏิบัติการภาคสนาม จังหวัดบุรีรัมย์ ครั้งที่ 2 โดยได้สำรวจพื้นที่โรงแรมเอกลดา อำเภอนางลอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าโรงแรมมีลักษณะที่ตั้งเหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางของ SDG Farm Model ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้กับโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ปราสาทเขาพนมรุ้งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด นอกจากนั้นโรงแรมยังเป็นจุดสัญจรที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางผ่านก่อนเข้าตัวจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกับในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของชุมชนจัดการน้ำเพื่อการเกษตร หมู่บ้านโคกพลวง และศูนย์จัดการดินและปุ๋ยชมชน หมู่บ้านดอนหวาย ซึ่งชุมชนต่างๆประกอบไปด้วยปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ความสามารถภูมิปัญญาชาวบ้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา SDG Farm Model ภายใต้การประสานความร่วมมือกับโรงแรมเอกลดาในฐานะเป็นศูนย์กลาง (Smart Hub) ของการเกษตรแบบ Smart farm ได้เป็นอย่างดีและเห็นว่า โรงแรมเอกลดา จึงมีศักยภาพที่สามารถจะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาการเกษตรแนวใหม่โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเกษตร (Smart Farm Hotel) เพื่อการขับเคลื่อนรูปแบบ SDG Farm Model ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคของการเปลี่ยนผ่าน (transform) ให้โรงแรมเอกลดาเป็นศูนย์กลางของ SDG FARM MODEL คือ ผู้ประกอบการและหุ้นส่วน เครือข่ายภาคีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจหลักคิดและปรัชญาของการพัฒนาในรูปแบบของ SDG FARM MODEL เพื่อที่จะสามารถพัฒนาโรงแรมตามแนวทางของ SDG Farm Model โดยใช้ช่องทางการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์โรงแรมทุกรูปแบบเพื่อให้โรงแรมมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของการเป็น Organic farm hotel / Environmental friendly hotel เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการประสานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการร่วมกันตามแนวทางของ SDG FARM MODEL ให้เกิดกระบวนการขับเคลื่อนในรูปแบบของการมีส่วนร่วมและหุ้นส่วนการพัฒนาร่วมกัน (partners) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


ขณะจากการศึกษาคุณลักษณะผู้ที่จะมาเป็นศูนย์กลางของ SDG FARM MODEL ในฐานะของ Smart Farm Hub นั้นจำเป็นต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน จึงจะสามารถนำพา SDG FARM MODEL ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ
1) ทุนทรัพยากร เช่นทุนที่ดิน แรงงาน เงินลงทุน ชัยภูมิที่มีศักยภาพ เช่นมีแหล่งน้ำ มีแหล่งดินที่อุดม สมบูรณ์ มีเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สะดวก ฯลฯ
2) ทุนทางสังคม เช่น เครือข่ายภาคีในระดับต่างๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน / เกษตรกร ปราชญ์
และ 3) ทุนเรื่องจิตสาธารณะ เช่น ความมุ่งมั่นต่อการสร้างและการพัฒนาเพื่อส่วนรวมร่วมกัน การร่วม แบ่งปัน การร่วมดูแลสังคม สิ่งแวดล้อมในมิติต่างๆ
ในส่วนของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อการเกษตรกรรมในรูปแบบ SDG smart farm model นั้น ตามระบบห่วงโซ่การผลิตทางการเกษตร (supply chain) ควรได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เช่น จากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ อาทิ ด้านการจัดเก็บข้อมูล และนำข้อมูลมาประมวลผลและสร้างแบบจำลองการจัดการองค์ความรู้ในการพยากรณ์ด้านการเกษตร ใน ด้านการใช้เทคโนโลยี/นวัตกรรมด้านระบบนำร่อง (GPS) ที่ควรนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับโดรน(drone) เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเกษตรในด้านการขนส่ง และการเก็บข้อมูลทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ทางการเกษตร ด้านการใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับโครงสร้างโทรคมนาคมของประเทศ เช่น ระบบสื่อสาร 3G และ4G เพื่อให้สามารถสื่อสารข้อมูล ภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว ในการการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการเกษตร ด้านการพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร(farm robotics)เพื่อช่วยให้การเกษตรพัฒนากระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็ว และด้านการใช้ระบบตรวจวัดและเครือข่าย (sensors network)มาช่วยประมวลผลในระดับพื้นที่และสามารถทดแทนการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความชัดเจนในการขับเคลื่อนในการดำเนินการตัดสินใจร่วมกันกับทุกภาคส่วนตามโมเดลของ SDG Smart Model @ Burirum เพราะจะทำให้แต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไว่ว่าจะเป็นเกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้านอีกทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนร่วมกันได้อย่างครบวงจร เพราะถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จโดยได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนแล้ว ประเทศไทยก็จะสามารถมีเกษตรกรรุ่นใหม่(smart farmer) ที่มีศักยภาพในการพัฒนาระบบเกษตรกรรมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนบนฐานของความพอเพียง อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังเป็นการกระจายอำนาจในการพัฒนาประเทศจากภาคการเกษตรที่เป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด และที่สำคัญที่สุดของประเทศไปสู่ภาครัฐเพื่อการขับเคลื่อนเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมและสมภาคภูมิ
