'วัชรพล'เชื่อรบ.จริงจังปราบโกง ทำดัชนีคอร์รัปชันไทยดีขึ้น-ไม่ตอบคดีนาฬิกาหรูเสร็จมี.ค.นี้
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ปธ.ป.ป.ช. ยังไม่พอใจ คะแนน CPI ไทยในปี 60 ลั่นปี 64 ต้องได้เกินครึ่ง เชื่อรัฐบาลจริงจัง-รัฐธรรมนูญปราบโกง มีส่วนทำคะแนนดีขึ้น เผย บิ๊กตู่ ไม่ปลื้มผลสำรวจสินบนหอการค้า สวนทาง -กำชับแจ้งข้อมูลสอบนาฬิกาหรู 'บิ๊กป้อม' สาธารณชนถี่ขึ้น ยังไม่ตอบเสร็จมี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประกาศคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ปี 2560 ซึ่งไทยได้ 37 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 96 จาก 180 ประเทศนั้น ว่า แม้อันดับของไทยจะดีขึ้น แต่มีเป้าหมายว่าในปี 2564 จะต้องได้คะแนนถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเป็นความท้าทาย แต่ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม ว่าจะช่วยได้อย่างไรบ้าง และหากไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2564 ก็จะต้องมาดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง ดังนั้น คะแนนใน ปี 2560 จึงยังถือว่าไม่ตรงตามเป้าหมาย
"จากนี้ ป.ป.ช.จะมีอนุกรรมการเพื่อวิเคราะห์ที่มาของแต่ละคะแนนที่ลดลง 3 ดัชนี ประกอบด้วย ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการจัดการของรัฐบาล เพื่อดูว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะการยกระดับคะแนน CPI ถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ส่วนคะแนนที่ลดลง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากการตรวจสอบคนในรัฐบาล การจำกัดสิทธิสื่อมวลชน ฯลฯ ส่วนตัวเห็นว่า ทุกประเทศก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ครบถ้วน ส่วนความหลากหลายทางประชาธิปไตย เวลาที่มีการสำรวจ จะต้องดูหลายปัจจัย เช่น สำรวจประชากรได้หลากหลายหรือไม่ สอบถามอย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ให้ความเชื่อถือในผลสำรวจ อย่างไรก็ตามในส่วนของคะแนนที่เพิ่มซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักนิติรัฐนั้นมีความน่าสนใจ ดังนั้น จึงจะมาดูว่าผู้ที่รับผิดชอบในการสำรวจแต่ละกลุ่มนั้น มีวิธีการคัดเลือกอย่างไร ดูกลุ่มใดเป็นตัวอย่าง แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่คะแนนเป็นบวกขึ้นมา"
เมื่อถามว่า ในประเด็นเรื่องกระบวนการทางการเมือง ซึ่งไทยลดลงมากพอสมควรตรงนี้เป็นผลจากกระบวนการตรวจสอบคนในรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คิดว่าต้องดูในหลายปัจจัย เพียงแต่ว่าสื่อมวลชนให้ความสนใจในการเมืองมาก ซึ่งคิดว่าการรายงานข่าวของสื่อมวลชนมีผลต่อคะแนนส่วนนี้ด้วย เพราะเขาต้องนำความสนใจของสังคมมาวิเคราะห์ด้วย อย่างไรก็ตามอีกสักระยะหนึ่งเมื่อทุกอย่างมีความคลี่คลายไปตามกฎหมาย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
เมื่อถามว่า คะแนนที่ดีขึ้นมีเรื่องของนิติรัฐ และการเรียกรับสินบน เป็นผลของการดำเนินการกวาดล้างของรัฐบาล และการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คิดว่ามีส่วน เมื่อเขาเห็นว่ารัฐบาลจริงจัง มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เน้นการปราบโกง รวมถึงกฎหมายลูก แม้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับป.ป.ช.จะให้กรอบเวลาในการดำเนินงาน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไม่สบายใจ แต่ สนช.เห็นว่าต้องกำหนดเวลาในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความมีประสิทธิภาพ คนจะได้เกรงกลัว ซึ่งเป็นความคาดหวังของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว เพื่อทำให้คนที่คิดจะโกงเห็นว่าจะต้องรับโทษ และไม่กล้ากระทำความผิด
เมื่อถามว่า เมื่อเห็นคะแนนแล้วจะเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียนคนในรัฐบาล เพื่อให้คะแนนดีขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ก็ต้องมาวิเคราะห์ดูเรื่องใดที่เป็นความสนใจของประชาชน จะต้องเรียกเจ้าหน้าที่มารับทราบว่าจะต้องเน้นเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ
พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวถึงกรณีการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกับนายบุนทอง จิดมะนี รองนายกรัฐมนตรีและประธานหน่วยตรวจสอบการต่อการทุจริตแห่งสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าได้เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชั่นในเดือน ธ.ค.60 ซึ่งพบว่ามีสถานการณ์ที่สูงขึ้นมาก โดย พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อสงสัยว่าการสำรวจเช่นนั้นได้สำรวจตัวอย่างประชากรอย่างทั่วถึงหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างคือใคร เพราะการที่มหาวิทยาลัยหอการค้าเปิดเผยว่า สถานการณ์การทุจริตสูงขึ้นมากนั้นเป็นเรื่องน่าตกใจ ซึ่งจะทำให้เกิดภาพลบในประเทศ และเสียหายต่อการลงทุน เพราะแท้จริงแล้วดัชนีการทุจริตไม่ได้เป็นไปตามนั้น
ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรื่องนาฬิกาหรูนั้น ว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ส่วนที่เคยได้ให้คำมั่นไว้ว่าต้องเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตอนนี้เป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำตามระเบียบ และคงต้องสอบถามไปยังเลขาฯป.ป.ช.ว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนคิดว่าท่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ส่วนตนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็ไม่ได้อยู่แล้วมันเป็นเรื่องต้องห้าม แต่จะพยายามให้เลขาฯป.ป.ช.แจ้งข้อมูลที่คนอยากทราบให้บ่อยขึ้น
