'ตูน' มอบแล้ว! เงินกว่า 1,300 ล้าน ให้ 11 รพ.ทั่วประเทศ
'ตูน บอดี้สแลม' นำทีมงานก้าวคนละก้าว มอบเงิน 1,300 ล้านบาทให้ 11 โรงพยาบาล ก่อนปล่อยทีมนักวิ่ง 2,100 คน วิ่งระดมทุนช่วยรพ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี
วันที่ 25 ก.พ. 2561 นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม และทีมงานก้าวคนละก้าวได้มอบเงินบริจาคในโครงการกว่า 1,300 ล้านบาทให้กับ 11 โรงพยาบาล เพื่อนำไปจัดสรรซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่แต่ละโรงพยาบาลตั้งใจจัดซื้อ โดยมี พล.ต.นิมิตร สะโมทาน ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และบุคคลากรแต่ละโรงพยาบาลเป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินบริจาค ว่าจะนับจำนวนเตียงของแต่ละโรงพยาบาลเป็นหลักในการจัดสรรไปแต่ละโรงพยาบาล
โดยตูน ก็ได้กล่าวขอบคุณทีมงานและประชาชน และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือทุกคนได้เริ่มออกกำลังกาย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนจะได้รับพลังงานดี ๆ จากการวิ่ง ความมีวินัย การได้สร้างประโยชน์ทางใดทางหนึ่งเมื่อตนเองเป็นคนที่แข็งแรงแล้ว
นายชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟและที่ปรึกษาโครงการก้าวคนละก้าว เปิดเผยว่า วันนี้มีการมอบเงินบริจาคก้อนแรกจากตัดยอดเงินบริจาคโครงก้าวคนละก้าวในวันที่ 31 ม.ค. 2561 จำนวนเงิน 1,300 ล้านบาท ให้ 11 โรงพยาบาลเพื่อซื้ออุปกรณ์และดำเนินโครงการในส่วนที่เร่งด่วนก่อน แต่ทั้งนี้ทางโครงจะยังไม่ปิดการรับบริจาค ประชาชนยังคงสามารถร่วมบริจาคได้เช่นเดิมทั้งผ่านบัญชีและการขายของที่ระลึกจนถึงวันที่ 31 พ.ค. นี้ และนำจำนวนเงินที่ได้ไปสมทบ 11 โรงพยาบาลเช่นกัน
นอกจากการมอบเงินบริจาคให้กับ 11 โรงพยาบาลวันนี้ยังมีการจัดกิจกรรม “ลอง RUN 2018” เป็นการวิ่งระยะสั้นจำนวน 5.4 กิโลเมตร โดยมี โน๊ต อุดม เป็นครีเอทีฟและผู้ดูแลโครงการ ซึ่งเน้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยวิ่งมาวิ่งในกิจกรรมนี้ และจะนำเงินทั้งหมดที่ได้จากกิจกรรมในวันนี้เข้าบริจาคที่รพ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี หลังขอความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน เนื่องจากโรงพยาบาลไม้แก่นประสบปัญหาเครื่องเอกซ์เรย์ 2 เครื่องชำรุด ต้องการเงิน 4 ล้านบาทไปดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งในวันนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมวิ่งจำนวน 2,100 คน
บรรยากาศภายในงาน มีการจัดบูมกิจกรรมให้ร่วมมากมาย รวมถึงการขายของที่ระลึกในโครงการก้าวคนละก้าว เช่น หมวก และเสื้อ เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนในโครงการ โดยก่อนงานเริ่มได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ทีมงานประชาชนที่มาร่วมก็ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไป
ที่มา : http://www.springnews.co.th/view/204234

