เมื่ออดีตนายกอบต.สกลนคร-พวก พ้นบ่วงสารพัดคดีทุจริต ด้วยปัจจัยเรื่องเวลา-เอกสารสูญหาย!
"...ประกอบกับระยะเวลาได้ล่วงเลยมา 9 ปี ทำให้เอกสารที่เกี่ยวข้องสูญหาย ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่อาจหาพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ จังหวัดสกลนครพิจารณาแล้วมีความสอดคล้องกับความเห็นของนายอำเภอสว่างแดนดิน จึงขอยุติเรื่องทุกประเด็น..."

ในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเผยแพร่ผลการสอบสวนคดีทุจริตของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รายหนึ่งในจังหวัดสกลนคร กับพวก ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ทุจริตในหลายกรณี เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติส่งเรื่องให้จังหวัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่เนื่องจากระยะเวลาผ่านพ้นมานานหลายปี เอกสารที่เกี่ยวข้องสูญหายไป ไม่สามารถหาหลักฐานพยานได้ และต้องมีการยุติการสอบสวนไปโดยปริยาย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในเว็บไซต์สำนักงานป.ป.ช. มีการเผยแพร่ผลการสอบสวนกรณีกล่าวหา นายทองเจริญ ดวงหล้า ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร กับพวก มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเรียกรับเงินตอบแทนการบรรจุเข้าทำงาน จัดซื้อเครื่องเสียงและเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในห้องประชุม ไม่มีคุณภาพ ไม่เหมาะสมราคา ทุจริตเงินสนับสนุนงานบุญบั้งไฟประจำปี 2549 ทุจริตเงินจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2550 หักเงินตอบแทนพิเศษ (เงินโบนัส) จากพนักงาน และลูกจ้าง จำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ และกรณีนายพิทักษ์ ทองศิลา ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง จัดซื้อวัสดุสำนักงาน และครุภัณฑ์ต่าง ๆ กับห้างร้านที่เป็นเครือญาติของตนเอง และกรณีร่ำรวยผิดปกติ
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 53/2550 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 ส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 6
ขณะที่จังหวัดสกลนครได้มีหนังสือ ลับ ที่ สน 0023.4/65 ลงวันที่ 27 มกราคม 2560 แจ้งตอบกลับ ป.ป.ช. ว่า ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลหนองหลวง และปัจจุบันนายทองเจริญ ดวงหล้า มิได้เป็นนายกเทศมนตรีตำบลหนองหลวง และจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในแต่ละประเด็น โดยมีความเห็นดังนี้
ประเด็นที่ 1 ร้องเรียนกล่าวหาว่า รับเงินค่าเปิดกรอบเพื่อบรรจุเจ้าหน้าที่ใหม่เห็นว่า อำนาจในการปรับเพิ่มกรอบอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปี 2549 - 2551 และการบรรจุแต่งตั้งพนักงานส่วนตำบล จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดสกลนคร ตามข้อ 18 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2545 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนตำบล และกรณีตามข้อร้องเรียนดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดสกลนครเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น การปรับเพิ่มกรอบอัตรากำลัง 3 ปี และการบรรจุแต่งตั้งพนักงานส่วนตำบล มิใช่อำนาจนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเพียงฝ่ายเดียว จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดสกลนคร ข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อหารือแต่อย่างใด ประกอบกับกรณีนี้เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งได้ล่วงเลยมาแล้วเป็นเวลา 9 ปี ทำให้เอกสารที่เกี่ยวข้องสูญหาย ไม่อาจหาพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงได้
ประเด็นที่ 2 ร้องเรียนกล่าวหาว่า จัดซื้อเครื่องเสียงและเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในห้องประชุมไม่มีมาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ ไม่เหมาะสมกับราคาเห็นว่า ฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่าย เลขที่คลังรับ 462 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 จัดซื้อเครื่องเสียงโดยวิธีตกลงราคา งบประมาณ 99,500 บาท และจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ โดยวิธีสอบราคา มีผู้ในใจขอซื้อเอกสารสอบราคา จำนวน 15 ราย วงเงินตามสัญญาซื้อ จำนวน 174,000 บาท ถือได้ว่าองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวงได้ประกาศเผยแพร่การสอบราคา ไปยังผู้มีอาชีพขายโดยตรงจำนวนมากแล้ว และปัจจุบันครุภัณฑ์ดังกล่าวยังใช้การได้ดี จึงไม่เป็นจริงตามข้อกล่าวหา
ประเด็นที่ 3 ร้องเรียนกล่าวหาว่า นายทองเจริญ ดวงหล้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง ขาดการประสานงานที่ดี และไม่เคยประชุมชี้แจงการปฏิบัติงาน การใช้จ่ายเงินกับสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เห็นว่า กรณีนี้เป็นเรื่องร้องเรียนกล่าวหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคล เหตุเกิดตั้งแต่ ปี 2549 ซึ่งได้ล่วงเลยมานานแล้ว และปัจจุบันนายทองเจริญ ดวงหล้า มิได้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ประเด็นที่ 4 เงินสนับสนุนบั้งไฟ ประจำปี 2549 โดยจ่ายเงินไป 3,700 บาท แต่ให้เซ็นรับเงินไปจำนวน 5,000 บาท เห็นว่า ฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่ายเป็นการเบิกจ่ายค่าจ้างเหมาตกแต่งขบวนแห่บั้งไฟ แต่ละขบวนต้องมีรถตกแต่งไม่น้อยกว่า 1 คัน มีชาวบ้านผู้ร่วมขบวนแห่ไม่น้อยกว่า 50 คน มีขบวน 13 ขบวน ขบวนละ 5,000 บาท โดยจัดจ้างบุคคลในแต่ละชุมชน/หมู่บ้าน เป็นผู้รับจ้าง และข้อร้องเรียนเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อร้องเรียนแต่อย่างใด ประกอบกับเหตุเกิดขึ้นในปี 2549 ซึ่งได้ล่วงเลยมานานแล้ว จึงเป็นกรณีไม่อาจแสวงหาพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ เห็นควรยุติเรื่อง
ประเด็นที่ 5 เงินการจัดงานวันเด็ก ในวันที่ 13 มกราคม 2550 งบประมาณตั้งไว้ 100,000 บาท แต่ของรางวัลที่จัดให้แก่เด็กไม่เพียงพอ ไม่เหมาะสมกับจำนวนเงินที่จัดสรร เห็นว่า เบิกจ่ายจริง จำนวน 88,935 บาท โดยเฉพาะเบิกจ่ายค่าจัดซื้อขนมสำหรับแจกจ่ายให้แก่เด็กจำนวน 42 รายการ เป็นเงิน 19,842 บาท และมีโอกาสเป็นไปได้ว่า ในขณะแจกจ่ายขนมเกิดการชุลมุนตามพฤติกรรมของเด็กๆ ทำให้อาจได้รับไม่ทั่วถึงหรือได้รับมากน้อยไม่เท่ากัน ประกอบกับ เรื่องดังกล่าวได้ล่วงเลยมานานถึง 9 ปี ทำให้เอกสารที่เกี่ยวข้องเกิดการสูญหาย ไม่อาจหาพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้
ประเด็นที่ 6 กรณีหักเงินโบนัสของพนักงานส่วนตำบลและลูกจ้างประจำในปีงบประมาณ 2549 เห็นว่า การจ่ายเงินดังกล่าวได้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารแต่ละรายเต็มจำนวน แต่จากการสังเกตพบว่าผู้ร้องเรียนกรณีดังกล่าวได้แก่ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง ในขณะนั้น ซึ่งมิใช่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่อาจแสวงหาพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้
ประเด็นที่ 7 กรณีจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์สำนักงานกับร้านนิติธรเจริญภัณฑ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวภรรยาของนายพิทักษ์ ทองศิลา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง จากการสุ่มตรวจสอบ ฎีกาต่างๆ จำนวน 8 ฎีกา เห็นว่า องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวงในขณะนั้น ได้จัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ สำนักงานจากร้านต่างๆ ในพื้นที่ ประกอบกับกรณีจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์สำนักงานกับร้านนิติธรเจริญภัณฑ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวภรรยาของนายพิทักษ์ ทองศิลา ดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวงในขณะนี้ มิได้มีข้อห้ามแต่ประการใด
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายอำเภอสว่างแดนดินในฐานะผู้มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับของทางราชการ ตามมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 ว่าองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวงในขณะนั้น ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน ระเบียบ วิธีการที่กำหนดไว้ เห็นควรยุติเรื่อง ประกอบกับระยะเวลาได้ล่วงเลยมา 9 ปี ทำให้เอกสารที่เกี่ยวข้องสูญหาย ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่อาจหาพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ จังหวัดสกลนครพิจารณาแล้วมีความสอดคล้องกับความเห็นของนายอำเภอสว่างแดนดิน จึงขอยุติเรื่องทุกประเด็น
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการนำเรื่องพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 883 - 54/2560 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 มีมติรับทราบผลการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ดังกล่าว
และนั้นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ นายทองเจริญ ดวงหล้า อดีตนายกอบต.หนองหลวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร กับพวก พ้นบ่วงข้อกล่าวหาสารพัดคดีทุจริตไปโดยปริยาย?
สะท้อนให้เห็นสภาพการแห่งปัญหาในระบบขั้นตอนกระบวนการสอบสวนคดีทุจริตของหน่วยงานรัฐบางอย่างได้เป็นอย่างดี
