"ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" เส้นทางโอกาสที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แม้โอกาสรออยู่มากมายในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แต่มีความท้าทายอย่างน้อย 3 ประเด็นที่ต้องก้าวผ่านให้ได้ 1.เงินทุน 2.ระบบภาษี 3.กฎระเบียบต่าง
มีประเด็นท้าทายมากมายที่ภาคธุรกิจต้องก้าวข้ามไปให้ได้ อย่างน้อยๆ ก็ 3 ประเด็น ซึ่งภาษิตจีนได้เปรียบอุปสรรคต่างๆ เหมือนภูเขาใหญ่ที่ทุกคนต้องใช้ความพยายามในการก้าวข้ามผ่านไปให้ได้
เรื่องแรก เงินทุน ภาคธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นเกษตร หรือพลังงานยังมีปัญหาในเรื่องของการเข้าถึงแหล่งทุนอยู่มาก
เรื่องที่สอง ระบบภาษี ที่ยังไม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
เรื่องที่สาม กฏระเบียบต่างๆ ที่เข้มงวดของรัฐบาลในการควบคุมเรื่องต่างๆ จะผ่อนคลายอย่างไรให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น และนักลงทุนต่างชาติสามารถมาลงทุนในประเทศไทยได้สะดวกขึ้น
การเกิดขึ้น AEC ในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงเป็นสิ่งที่ประเทศไทยและอุตสาหกรรมไทยจะต้องเร่งปรับตัวโดยมีภาครัฐเป็นตัวหลักในการผลักดันภาคธุรกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้า
ที่ผ่านมาภาคเอกชน เปรียบเสมือนทหารแนวหน้า ส่วนรัฐบาลคอยบัญชาการอยู่ด้านหลัง ภาคเอกชนเห็นโอกาสข้างหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะรายใหญ่ได้ก้าวออกไปล่วงหน้าแล้วกลับมารายงานรัฐบาลว่าข้างหน้ามีโอกาสดีๆ เกิดขึ้นบ้าง
สิ่งที่ปรากฏเวลานี้ทุกประเทศขาดแคลนเหมือนๆ กัน คือ เรื่องของพลังงาน เงินทุน และบุคลากร จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยแก้ไข สนับสนุนภาคเอกชนให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงโดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้สามารถเติบโตไปในโลกกว้าง
จีนเป็นประเทศตัวอย่างที่รัฐบาลเข้ามาเป็นหลักในการผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้นตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศในอาเซียนควรเรียนรู้
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อาเซียน มีการพัฒนาการที่ดีขึ้น ดังนั้นก่อนที่จะเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภาครัฐควรต้องเข้ามาสนับสนุนภาคเอกชนให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในด้านพลังงาน การเงิน และทรัพยากรบุคคล เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้น ซึ่งแนวโน้มจีนและอินเดียมีนโยบายมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบอย่างในขยายการลงทุนระหว่างประเทศ
แม้ในช่วงที่ผ่านมาจีนจะไปลงทุนในแอฟริกาหลายโครงการ แต่อาเซียนในมุมมองของจีนก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
AEC จึงเป็นเส้นทางแห่งโอกาส เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าการลงทุนมหาศาล เป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมฐานความมั่นคงของแต่ละประเทศให้ดีขึ้น
เพราะนอกเหนือจากจีนและอินเดียที่สนใจขยายการลงทุนมาในอาเซียน ในอนาคตอันใกล้อเมริกาและยุโรปยังเป็นอีกทุนใหญ่ที่จะเข้ามาในตลาดอาเซียนเช่นกัน
โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยในวันนี้จึงอยู่ที่ว่าเราพร้อมที่จะรองรับการลงทุนเหล่านี้แล้วหรือยัง?
