สหรัฐพบเชื้อวัวบ้าครั้งแรกรอบเกือบ 6 ปี
สหรัฐฯ เผยพบเชื้อวัวบ้าครั้งแรกในรอบ 6 ปี เร่งให้ความมั่นใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ขณะเกาหลีใต้เตรียมออกมาตรการป้องกัน
25 เม.ย.55 กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ แถลงว่า พบวัวนมตัวหนึ่งป่วยเป็นโรควัวบ้า ในแคลิฟอร์เนียตอนกลางเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และนับเป็นตัวที่ 4 เท่าที่เคยตรวจพบในประเทศ แต่ย้ำว่า ทางการควบคุมการระบาดได้และไม่มีความเสี่ยงที่เนื้อวัวติดเชื้อ จะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร หรือเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ได้
"กระทรวงเกษตรมั่นใจในสุขภาพของฝูงปศุสัตว์ในประเทศและความปลอดภัยของเนื้อวัว ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากนม ขณะที่การสอบสวนด้านระบาดวิยากำลังดำเนินอยู่ ทางกระทรวงฯจะแถลงผลคืบหน้าอย่างเหมาะสมแก่เวลาและโปร่งใส"
ตัวอย่างสัตว์ติดเชื้อได้ถูกส่งไปยังห้องแลบในเมืองอาเมส รัฐไอโอวา และผลตรวจสอบออกมาเป็นบวก จากนั้น สหรัฐฯได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับห้องแลบในอังกฤษและแคนาดา
โรควัวบ้า หรือ โบไวน์ สปองจิฟอร์ม เอนเซฟาโลพาธี (บีเอสอี) ทำให้วัวล้มตาย และเป็นสาเหตุของโรคสมองฝ่อในคนที่กินเนื้อวัวติดเชื้อเข้าไป แต่องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่ามนุษย์ไม่ได้รับเชื้อจากการบริโภคนมจากวัวติดเชื้อ
การยอมรับว่าพบเชื้อวัวบ้าแม้ในวงจำกัด เป็นเรื่องอ่อนไหวมาก การพบเชื้อวัวบ้ากอนหน้านี้ในสหรัฐฯ แคนาดา อิสราเอล ยุโรปและญี่ปุ่น สร้างความปั่นป่วนในตลาดเนื้อวัวโลกมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ หลายครั้งนำมาซึ่งมาตรการห้ามนำเข้า และกำจัดปศุสัตว์ทั้งฝูง สร้างความเสียหายแก่เกษตรกรอย่างย่อยยับ
ตามข้อมูลจากสหพันธ์ผู้ส่งออกเนื้อวัวสหรัฐฯ ระบุว่าการส่งออกเนื้อวัวสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 353 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยเม็กซิโก แคนาดา เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นตลาดส่งออกหลักๆ
ที่ผ่านมา มีการตรวจพบวัวติดเชื้อวัวบ้ากว่า 1.9 แสนตัวในสหภาพยุโรป นับจากตรวจพบครั้งแรกในปี 2529 นำไปสู่การกำจัดวัวหลายล้านตัว
และนับจากยืนยันครั้งแรกว่าเชื้อบีเอสอีเป็นสาเหตุโรคสมองฝ่อในคนเมื่อปี 2539 พบผู้ต้องสงสัยว่าเสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 200 คน ส่วนใหญ่อยู่ในอังกฤษ
ด้าน กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นกับเนื้อวัวนำเข้าสหรัฐฯ อาทิ ทบทวนกฎระเบียบการกักกันสัตว์ หลังสหรัฐฯเผยว่าพบวัวบ้าครั้งแรกในรอบ 6 ปี
