งดงามเหลือเกิน ‘โหมโรง เดอะมิวสิคัล’
หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร) เป็นบุตรชายของครูสิน ศิลปบรรเลง เกิดและเติบโตที่อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นนักดนตรีไทยที่มีความถนัดในการตีระนาด ชนิดหาตัวจับยาก จนได้ตีระนาดถวายสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์ไพเราะ เมื่อ 27 มิ.ย. 2468

แม้บทเพลงจะไม่ก้องกังวานเทียบเท่าบรอดเวย์ แต่หากใครได้ยินยล ‘โหมโรง เดอะมิวสิคัล’ ฉบับ 2561 ที่จัดแสดง ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ย่อมสัมผัสได้ถึงความละมุน อิ่มเอม ในความพริ้งไพเราะเสนาะหูของเครื่องดนตรีไทยที่นำขึ้นมาบรรเลงอย่างมีศิลปะ
โหมโรง เดอะมิวสิคัล เคยจัดแสดงมาครั้งหนึ่งแล้ว ในปี 2558 และปีนี้กลุ่มโต๊ะกลม ได้รื้อฟื้นความทรงจำอันประทับใจนั้นขึ้นมาอีกครั้ง โดยเป็นการหยิบยกเรื่องราวชีวิตของนายศร ศิลปบรรเลง หรือหลวงประดิษฐ์ไพเราะ มหาดุริยกวีของไทยขึ้นมาถ่ายทอดเป็นละครเวที
โดยได้นักแสดงมากฝีมือ ‘สุประวัติ ปัทมสูต’ ศิลปินแห่งชาติ แสดงนำเป็นหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ท่านครู) ร่วมด้วย อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ (ศร) ด.ช.ธีระภพ ทรงวาจา (ศรวัยเด็ก) อนุสรณ์ มณีเทศ (พันโทวีระ) เบิ่ง-ทวีศักดิ์ อัครวงษ์ (ขุนอิน) สาธิดา พรหมพิริยะ (แม่โชติสาว) และสุดา ชื่นบาน (แม่โชติ) เป็นต้น

หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร) เป็นบุตรชายของครูสิน ศิลปบรรเลง เกิดและเติบโตที่อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นนักดนตรีไทยที่มีความถนัดในการตีระนาด ชนิดหาตัวจับยาก จนได้ตีระนาดถวายสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์ไพเราะ เมื่อ 27 มิ.ย. 2468
ผลงานของท่านครูมีมากมาย นอกจากการเป็นผู้คิดค้นการอ่านตัวโน้ตเป็นระบบตัวเลขสำหรับเครื่องดนตรี ซึ่งได้ใช้จนมาถึงปัจจุบันนี้แล้ว ยังแต่งเพลง ‘แสนคำนึง’ ขึ้นในช่วงถูกกฎระเบียบห้ามไม่ให้เล่นดนตรีไทย สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เดิมทีมีเนื้อร้อง แต่เนื่องจากกังวลจะได้รับอันตรายกับครอบครัว ท่านครูจึงตัดสินใจทำลายทิ้ง
บทเพลง แสนคำนึง ได้ถูกนำมาใช้เป็นเพลงสำคัญในโหมโรง เดอะมิวสิคัล ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้น เสียงระนาดที่นายศร บรรเลงอย่างพริ้งพรายไพเราะในละครเวที นำมาจากผืนระนาดของท่านครูจริง ๆ โดยมีทายาทรุ่นเหลนของท่านครู อย่าง ‘อัษฎาวุธ สาคริก’ มาช่วยดูแลดนตรีไทยอีกทีหนึ่ง

นับเป็นกำไรของผู้ชมโดยแท้ เพราะนอกจากจะได้เสพความสุขจากละครเวทีที่ถ่ายทอดอัตชีวประวัติของท่านครูได้อย่างกระชับ ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของชีวิตคนดนตรีไทยแล้ว ยังจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งได้ฉายภาพนโยบายสำคัญ ๆ ในสมัยนั้นออกมา โดยไม่รู้สึกว่า ถูกยัดเยียด พร้อมกับคำขวัญที่คุ้นหูและรู้จักกันดีที่ว่า “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” ตอกย้ำอยู่ในบทละคร
ขณะที่บทเพลงที่ถูกร้อยเรียงขึ้น สะท้อนถึงตัวตนของผู้ประพันธ์คำร้อง เพราะทันทีที่ได้รับฟังเชื่อสนิทใจว่า นี่คือสไตล์ของ ‘ประภาส ชลศรานนท์’ ซึ่งไม่ผิดไปจากที่คาดหมายไว้ เพราะเมื่อเปิดสูจิบัตรดูรายชื่อก็พบชื่อของเขาปรากฎอยู่จริง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นที่ฝากไว้ในละครเวทีเรื่องนี้
ส่วนฉากสำคัญที่ยังคงติดตรึงหัวใจของผู้ชม นั่นคือฉากการตีระนาดเสียงดุดันประชันกันระหว่างนายศรกับขุนอินสด ๆ วินาทีนั้นเสียงระนาดที่บรรเลงออกมา โดยไร้เอฟเฟกต์ประกอบใด ๆ พาให้ทุกคนที่อยู่ในโรงละครเสมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่งเพื่อรับฟังเสียงอันไพเราะนั้น

ก่อนจะตามมาด้วยเสียงปรบมือดังลั่นกังวาน ต้องชมเชย อาร์ม กรกันต์ และเบิ่ง ทวีศักดิ์ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงดนตรีไทยได้อย่างลงตัว ในบทศรและขุนอิน ซึ่งถึงแม้แต่ละคนจะมีพื้นฐานทางดนตรีอยู่แล้ว แต่นักแสดงก็ต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมฝีมือนานนับหลายเดือน จึงแทบไม่น่าเชื่อว่า สุดท้ายแล้วดนตรีไทยจะเข้าไปห่อหุ้มละครเวทีได้อย่างลึกซึ้งและลงตัวเช่นนี้
ด้วยองค์ประกอบฉาก แสง สี เสียง นักแสดง บทละคร และอื่น ๆ ส่งให้โหมโรง เดอะมิวสิคัล ขึ้นแท่นเป็นละครเวทีไทยที่มีดนตรีไทยบรรเลงเพลงไทยได้อย่างอ่อนช้อยงดงามเหลือเกิน จนยากจะหาคำใดมาเปรียบเปรยยกย่องให้สมกับความตั้งใจของทุกคนได้
โหมโรง เดอะมิวสิคัล เปิดแสดงตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.-3 มิ.ย.2561 เพียง 10 รอบเท่านั้น ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าสยามแควร์วัน ปทุมวัน กรุงเทพฯ
**********
พลาดไม่ได้ กับละครเวที ‘ลูกหมาป่า’ โดยกนต์ธร เตโชฬาร จะเปิดแสดง 24-27 พ.ค. และ 31 พ.ค.-3 มิ.ย. 2561 ที่เดียวกัน มีครูหยา (พี่ผิน) แห่งบุพเพสันนิวาส ร่วมแสดงด้วยนะจ๊ะ
