ปูด'ขรก.-นักการเมือง'งาบข้าวกล่อง30ล้าน
อนุฯสอบงบน้ำท่วม เผยพบพิรุธ "ขรก.-นักการเมือง" งาบค่าจ้างทำข้าวกล่อง 30 ล้านบาทใน 4 เขตกทม. พร้อมเผยข้อมูลเบิกงบฯเกินจริง
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการติดตามงบประมาณรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (กมธ.ติดตามงบน้ำท่วม) สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการตรวจสอบประเด็นการใช้งบประมาณเพื่อจัดซื้อข้าวกล่องเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่าพบข้อพิรุธว่าจะมีการทุจริต เป็นเงินมากถึง 30 ล้านบาท ในส่วนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พื้นที่ 4 เขตของกรุงเทพฯ ได้แก่ เขตลาดกระบัง, เขตคลองสามวา, เขตมีนบุรี และ เขตหนองจอก มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปทั้งสิ้น 61 ล้านบาท และจากการตรวจสอบร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรรมสรรพากร และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พบข้อเท็จจริง ดังนี้
1.มีการจ่ายเงินค่าทำของให้กับผู้รับจ้างทำข้าวกล่อง ย้อนหลัง60 วัน
2.รายชื่อของผู้รับจ้างทำข้าวกล่องที่แจ้งมาจำนวน 62 คน พบว่าส่วนใหญ่ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้รับจ้างทำข้าวกล่องจริง และส่วนหนึ่งของบุคคลที่ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง เป็นเพียงคนประกอบอาหาร และได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน วันละ 200 บาทเท่านั้น
3.เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมฯ ได้จ่ายเงินค่าจ้างเป็นเงินสด และมีการเบิกเงินสดครั้งละ 9-20 ล้านบาท โดยผู้อำนวยการกรมพัฒนาสังคมฯ ยอมรับว่าได้เบิกออกมาจากเช็ค และให้ผู้อำนวยการกรมพัฒนาสังคมฯ เขต8นำเงินสดไปจ่าย
4.ผู้ที่ถูกนำชื่อมาอ้างไม่ปรากฎรายการการเสียภาษีนิติบุคคล หรือการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ภาษีจ่ายทำของ) โดยประเด็นนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรตรวจสอบและยืนยันว่าไม่มีการเสียภาษีจริง
5.พบว่าก่อนหน้านี้ที่มีการจ่ายค่าจ้างคนทำข้าวกล่อง มีนักการเมืองใช้เงินสำรองจ่ายไปก่อน
“การตรวจสอบเรื่องนี้มีความคืบหน้า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ยังเหลือเพียงคนที่มีชื่อว่าเป็นผู้รับจ้างทำข้าวกล่องไม่กี่รายที่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด ซึ่งกรรมาธิการได้ทำหนังสือเชิญไปแล้ว หากไม่มา ทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สอบด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ทราบแล้วว่ากระบวนการดังกล่าวมีใครเกี่ยวข้องบ้าง ประเด็นนี้มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เบื้องต้นเชื่อว่างบประมาณส่วนนี้ จำนวน 61 ล้านบาท จะมีการทุจริตมากถึง 30 ล้านบาททีเดียว” นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ตนทราบว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปฏิบัติราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วม ให้ส่งคืนงบฯ ในกรณีที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกาศประกวดราคา หรือ กรณียังไม่ได้เริ่มการปฏิบัติงานภายในวันที่ 30 เม.ย. ให้ส่งคืนงบประมาณ ภายในวันที่ 3 พ.ค. นี้ โดยได้อ้างตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ให้เรียกคืน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นการสะท้อนความไม่จริงใจและจริงจังการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล
นายชาญชัย กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบการใช้งบประมาณ 24,828 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่ง ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เพื่อให้หน่วยงานทำโครงการป้องกันน้ำท่วมนั้น จากการเรียกเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง และกรมชลประทานมาชี้แจงในกรรมาธิการฯ พบข้อพิรุธ คือ กรมทางหลวงได้รับงบประมาณเพื่อสร้างแนวคันกั้นน้ำ และสะพานบก เพื่อทำเป็นแนวฟลัดเวย์ ในหลายพื้นที่ อาทิ ทางหลวงหมายเลข 3119 ช่วงมีนบุรี-ลาดกระบัง (ร่มเกล้า) ที่จะสร้างแนวคันกั้นน้ำแนว King Dike ได้รับงบ 150 ล้านบาท, ทางหลวงหมายเลข 3256 ช่วงแยกทางหลวงหมายเลข 3 (บางปู) - ถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง) สร้าง Barrier Concrete ตามแนวเกาะกลางถนน งบประมาณ 160 ล้านบาท, ทางหลวงหมายเลข 1 ช่วงหนองแค-สระบุรี สร้างแนวฟลัดเวย์ด้านตะวันออกคลองระพีพัฒน์
โดยจะสร้างสะพานบก งบประมาณ 500 ล้านบาท, ทางหลวงหมายเลข 305 ช่วง กม.15+145 (ต่อเขตแขวงฯปทุมธานี) - องครักษ์ สร้างแนวฟลัดเวย์ด้านตะวันออก คลอง 13 - คลอง 14 จำนวน 2 แห่ง ยาวแห่งละ 250 เมตร งบประมาณ 350 ล้านบาท แต่เมื่อได้สอบถามไปยังกรมชลประทาน พบว่าขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าพื้นที่ใดจะใช้เป็นแนวฟลัดเวย์ เพราะการหารือยังไม่ได้ข้อยุติ ทั้งนี้ในวันที่ 16 พ.ค. ทางกรรมาธิการฯ จะสอบเรียกเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ อีกครั้ง

