เร่งแกะรอยซูโดฯเกาหลีใต้-ไต้หวัน
ดีเอสไอขอเอกสารนำเข้าซูโดฯเกาหลีใต้-ไต้หวัน ก่อนเข้าสอบปากคำกรมศุลกากร การท่าอากาศยาน การบินไทยสัปดาห์หน้า
วันนี้ ( 4 พ.ค.) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบคลังสินค้าการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขอทราบขั้นตอนการนำเข้าสินค้ากรณีมีการลักลอบนำเข้ายาสูตรซูโดอีเฟดรีนโดยสำแดงเท็จว่า ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน การบินไทยและกรมศุลกากรเพื่อขอให้ชี้แจงขั้นตอนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศว่ามีต้องผ่านขั้นตอนและพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าขั้นตอนแรกหลังสินค้าถูกส่งเข้ามาจะนำมาพักไว้ที่คลังสินค้าการบินไทย จากนั้นนำสินค้าออกจากคลังจะต้องออกใบเดริเวอร์รี่ ออเดอร์ หรือ DO ซึ่งเจ้าของผู้สั่งต้องไปติดต่อนำสินค้าออกจากคลังสินค้าการบินไทย เพื่อนำใบ DO ไปติดต่อศุลกากรเพื่อรับสินค้าออก ในขั้นตอนดังกล่าวจะมีการเสียค่าธรรมเนียมการใช้คลังสินค้าการบินไทย ค่าธรรมเนียมศุลกากร และมีการแยกประเภทสินค้า หากเป็นสินค้าประเภทกรีนไลท์ต้องมีการตรวจสินค้าก่อนนำออกไปได้ หากเป็นยาต้องผ่านขั้นตอนการตรวจรายละเอียดจากคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ว่าผู้นำเข้าได้รับอนุญาตหรือไม่ เป็นยาที่อยู่ในตำรับยาหรือไม่ และมีผลวิเคราะห์ตัวยาจากต่างประเทศหรือไม่ด้วย โดยอย.จะแนบเอกสารและประทับตราผ่านให้ ก่อนนำมาออก
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ดีเอสไอมีรายละเอียดคืบหน้าไปมาก โดยได้ขอเอกสารการนำเข้าสินค้าล็อตที่มีปัญหาเพื่อมาประกอบการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจะเรียกเจ้าหน้าที่ อย.เข้าสอบปากคำชี้แจงที่มาที่ไปทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งกรณีนำเข้าจากประเทศเกาหลีและไต้หวัน เพื่อนำข้อมูลที่เชื่อมโยงได้ไปสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้จะได้ประสานขอเข้าสอบปากคำกรมศุลกากร การท่าอากาศยานและการบินไทยอีกครั้ง เนื่องจากใบสำแดงสินค้าไม่ได้สำแดงเป็นซูโดอีเฟดรีน ชัดเจนว่าเป็นการสำแดงเท็จ ดังนั้นต้องสอบสวนให้ได้ว่าสำแดงไม่ตรงกันในขั้นตอนใด คาดว่าอีกไม่กี่วันจะทราบชัดเจนว่าขั้นตอนใดที่เป็นปัญหา หากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นจะถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ แต่หากไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ต้องดูเจตนาว่าเกี่ยวของอย่างไร

