“สมคิด” แนะใช้เศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนจีดีพีด้วยความยั่งยืน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษหัวข้อ "ชี้นำเศรษฐกิจ : ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ในงานสัมมนา 80 ปี หอการค้าไทย ว่า จากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทั้งนักวิชาการ ประชาชน หลายประเทศทั่วโลกเรียกร้องให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารนโยบาย เศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการบริหารเศรษฐกิจยุคใหม่มุ่งผลประโยชน์โดยเฉพาะการหาผลตอบแทนจาก ตลาดรอง การนำสินเชื่อดี ลูกหนี้เอ็นพีแอลไปขายต่อในตลาดรอง การซื้อขายสิทธิ์ในการซื้อหุ้น หรือการนำสิทธิ์ประกันไปขายต่อเมื่อเศรษฐกิจแท้จริงภาคการผลิตมีปัญหา ทำให้ตลาดรอง ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ มีปัญหาทั่วโลก จึงเห็นว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับ ควรนำมาใช้ในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนโยบายดังกล่าวไม่ปิดกั้นการเติบโต แต่ต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 2.6 แต่ยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นพื้นฐานเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน การกู้เงิน 400,000 ล้านบาท ต้องเป็นภาระหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หวั่นเกรงว่าหนี้สาธารณะอาจสูงถึงร้อยละ 47 หากบริหารจัดการไม่ดี เพราะขณะนี้เป็นการขาดดุลเชิงโครงสร้างอาจทำให้หนี้สาธารณะสูงถึงร้อยละ 50-60 ได้
นายสมคิด กล่าวว่า เพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจแข็งแกร่งต้องสร้างความแข็งแกร่งให้รากหญ้า เพราะค่าจ้างแงงานขั้นต่ำในประเทศจะไม่ต่ำเหมือนเดิมสอดคล้องกับการปรับ เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท แต่ต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสินค้า แต่การยกเลิกเป็นผู้รับจ้างผลิตควรปรับมาเป็นการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ การค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การปรับตัวรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มองว่าบริษัทขนาดใหญ่จะสามารถแข่งขันได้ แต่ยังห่วงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ควรยึดหลักเหมือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาต้องการให้เอสเอ็มอีเข้ามาลงทุนในอาเซียน เพราะเงินเยนแข็งค่า โดยญี่ปุ่นให้การส่งเสริมทั้งการพัฒนาและวิจัย เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ โดยหน่วยงาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันจนเอสเอ็มอีญี่ปุ่นสามารถลงทุนในแถบอาเซียน จนเติบโตได้ ดังนั้น ขณะนี้มองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงทั้งจากสหรัฐและยุโรป จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและเอกชนช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจอยู่บนพื้นฐานความ ยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง.
