“The Avengers” ภาพยนตร์ดีๆ มีบทเรียน

ภาพยนตร์อลังการ สุดมันส์ ในช่วงนี้ คงไม่มีเรื่องใดเกินเรื่อง “The Avengers” ซึ่งเทคนิคสุดยอด เอนิเมชัน 3 มิติเนียนสมจริง ราวกับได้ชมการ์ตูนที่สมจริงได้อย่างสนุกสนานตลอดเรื่องกันทีเดียว อย่าว่าแต่เด็กๆเลย วัยรุ่น (อย่างเราๆ..ฮา) หรือ ผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า ก็ยังดูกันได้อย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน
ภาพยนตร์ได้พูดถึง โลกี (Loki) ผู้ใฝ่อำนาจ จึงไปคบกับกองทัพต่างดาว เพื่อปกป้องโลก จึงได้จัดตั้งกองกำลัง The Avengers ทั้ง Iron Man, Hulk, Thor, Captain America, Hawkeye และ Black Widow ซึ่งแม้แต่ละคนจะมีบุคคลิกที่แตกต่าง มีจุดเด่นจุดด้อย ต่างๆกันไป แต่เมื่อร่วมแรงร่วมใจกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของโลกได้อีกครั้ง
ผมชมภาพยนตร์ เรื่องนี้แล้ว ก็รู้สึกได้รับบทเรียนมากมายหลายประการ ดังนี้
1. ทุกๆคนมีคุณค่า แม้แต่ละคนมีจุดอ่อน : ภาพยนตร์ได้พยายามชี้ให้เห็นว่า แต่ละคนมีคุณค่าอย่างมากในการทำงานร่วมกัน ทีมงานได้กลายเป็นทีมฮีโร่ที่แข็งแกร่งช่วยปกป้องโลก ซึ่งไม่ได้หมายความว่า เราจะคาดหวัง “ความดีสมบูรณ์” ของแต่ละคน เพราะ ทุกคนย่อมไม่มีใครดีสมบูรณ์ มีทั้ง ข้อดีและข้อเสียของฮีโร่ของแต่ละคนดังต่อไปนี้
• Iron Man ข้อดี คือ อัจฉริยะ นักคิดนักประดิษฐ์ มีความคิดสร้างสรรค์ ลงมือทำด้วยตนเอง ไม่ใช่ลอยตัวเอาแต่สั่งงาน บินได้ ไว มีอาวุธรอบตัว มีเกราะป้องกันที่ทำด้วยโลหะแข็งแรง กล้าหาญ รักชาติ พร้อมสวมหัวใจชายชาติทหาร ปกป้องประเทศชาติ และปกป้องโลก แต่ข้อเสีย คือ เป็นหนุ่มหล่อเศรษฐีเพลย์บอย เคยทำบาปในฐานะพ่อค้าอาวุธ (จนเมื่อพบว่า มีส่วนเป็นเหตุแห่งสงคราม ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก็ทำลายอาวุธที่ขายและเลิกเสีย) หยิ่ง ยโส ควบคุมยาก ฯลฯ
• Hulk ข้อดี คือ อัจฉริยะ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ทดลองการสร้างมนุษย์เป็นอาวุธ จนตัวเองกลายเป็นจอมพลังยักษ์ตัวเขียว มีแรงมหาศาล พร้อมชกยานบินต่างๆได้ด้วยมือเปล่า เพียงกระโดดก็ใกล้เคียงเกือบบินได้ หนังเหนียวทนได้ทุกอย่าง แต่ข้อเสีย คือ หาชุดใส่ยาก สิ้นเปลืองเสื้อผ้า (ยิ่งของแพงอยู่ด้วย...ฮา) สวมได้แต่กางเกงยืด (ฮา) ฯลฯ ตอนที่เป็นจอมพลังนั้น คือตอนที่โกรธ แล้วจะควบคุมสติไม่ได้ กลายเป็นจอมพลังยักษ์ตัวเขียว ราวกับคนละคนเลยทีเดียว
• Thor ข้อดี คือ เป็นเทพเจ้าสายฟ้า เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถยกฆ้อนสายฟ้าได้ แม้นาซ่าได้ทดลองยกฆ้อนนี้ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆก็ไม่สำเร็จ มีพลังฆ้อนที่แข็งแก่ง ปั่นฆ้องสร้างสายฟ้าฟาดได้ แต่ข้อเสีย คือ ไม่ยอมปั่นไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ยามเชื้อเพลิงมีราคาแพง (ฮา) เป็นคนมุทะลุ จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสงครามที่ดาวของเขา จึงถูกส่งมาที่โลก ก็เป็นอีกคนที่เดาอารมณ์ยาก ยึดตัวเองเป็นใหญ่เป็นระยะๆ
• Captain America ข้อดี คือ เป็นคนมุ่งมั่น หัวใจนักสู้ รักชาติ จาก เด็กชายฐานะยากจน ขี้โรค เขาสมัครเข้าเป็นทหาร เพื่อรับใช้ชาติ และได้อาสาเข้าร่วมโครงการลับ จนกลายเป็นสุดยอดทหาร super soldier หลังจากถูกแช่แข็งในมหาสมุทรกว่า 50 ปี ก็ได้รับการช่วยกู้กลับมามีชีวิตในยุคปัจจุบัน เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง มีโล่พิเศษ ทำด้วย อะดาแมนเทียม โลหะที่ไม่มีใครทำลายได้ มีอำนาจสะท้อนพลังต่างๆได้สูง ข้อเสีย คือ บินไม่ได้ ไม่มีรังสีเหมือน Iron Man และเป็นคนโบราณ แช่น้ำแข็งไปตั้ง 50 ปี จนถูก โทนี สต๊าร์ค (Iron Man) แซวบ่อยๆ
• Hawkeye ข้อดี คือ ยิงธนูแม่น แม้เคลื่อนที่ ธนูไฮเทคราวกับการ์ตูน แข็งแกร่ง ใจสู้ไม่มีถอย ข้อเสีย คือ เคยพลาด ถูกจี้หัวใจจนกลายเป็นพวกผู้ร้าย บินไม่ได้
• Black Widow ข้อดี คือ สวย หน้าตาดี หุ่นดี ฉลาด สมองดี รู้หลายภาษา แข็งแกร่ง สู้ได้กับผู้ชายนับสิบคน เป็นนักสืบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความสวยและความเก่งของเธอ ข้อเสีย คือ ด้วยความสวย และหยิ่ง เธอทำให้ เพพเพอร์พ็อต (แฟนของโทนี สต๊าร์ค Iron Man) หึงหวง น้อยใจ และเธอก็บินไม่ได้เหมือนกัน
แต่ละคนก็ย่อมมีจุดอ่อนของตัว เพียงแต่เรามองกันและกันใน “ส่วนดี” เราก็ได้ “ส่วนดี” มาประสานประโยชน์กัน แต่ถ้าเรามอง “ส่วนเสีย” เราก็มีแต่ความกังวลใจใน “ส่วนเสีย” และขยายจนกลายเป็น “ปัญหา” แทนที่จะเป็นการ “ประสานพลัง” ได้
2. หลักการแห่งความรัก ตามพระคัมภีร์ ช่วยสร้าง “ความรู้รักสามัคคี” ได้ดี มี 15 ข้อว่า “ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”
3. หลักการตรงข้ามความรัก ตามพระคัมภีร์ ช่วยทำลาย “ความรู้รักสามัคคี” อย่างชัดเจน เช่นกัน มี 15 ข้อว่า “ความไม่รักนั้น ก็ไม่อดทนกัน และไม่กระทำคุณให้ ความไม่รักทำให้ อิจฉา อวดตัว หยิ่งผยอง หยาบคาย คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ฉุนเฉียว ช่างจดจำความผิด
ความชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ก็เป็นความไม่รัก
และความไม่รัก ก็ทำให้ไม่ทนต่อความผิดของคนอื่น และไม่เชื่อในส่วนดีของเขา และไม่มีความหวังอยู่เสมอ และไม่ทนต่อหลายๆอย่าง”
ช่วงที่ทีม Avengers ตกหลุมพลาง ระแวงกัน ไม่ยอมรับกัน อวดตัวต่อกัน ไม่ให้เกียรติกัน จับผิดกัน ต่อสู้แย่งผลงานกัน ก็กลายเป็นทีมอ่อนแอ เสียเวลาและเสียพลังงานในการต่อสู้กันเอง แทนที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา กลายเป็นการสร้างปัญหาร่วมกัน
ช่วงที่ทีม Avengers “เลือก” ที่จะรักกัน ยอมรับความไม่สมบูรณ์ของกันและกัน ทุกคน ก็ได้ส่วนที่เป็นคุณค่าต่อกันและกันมาส่งเสริมกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และขับไล่ศัตรูที่กล้าแกร่งออกไปจากโลกได้สำเร็จ
เชื่อว่า เป็นบทเรียน “ความรู้รักสามัคคี” ที่เข้าท่าทีเดียวครับ
