'ประวิตร'ขอบคุณ15ปท.ช่วยหมูป่าจ่อปูนบำเหน็จจนท.
'พล.อ.ประวิตร' ขอบคุณกว่า 15 ประเทศ ร่วมภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 คน ชี้ไม่ขัดข้องเสนอขอปูนบำเหน็จเจ้าหน้าที่ ปัดครม.สัญจรอุบลฯ-อำนาจเจริญ หาเสียง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแสดงความพอใจ หลังเสร็จสิ้นภารกิจการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน หมูป่าอะคาเดมี่ และโค้ช 13 คน ที่ถ้ำหลวงขุนนางนอน จ.เชียงราย พร้อมกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกัน รวมทั้งต่างชาติกว่า 15 ประเทศ ที่ปฏิบัติภารกิจครั้งนี้จนสำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือที่ยากลำบากมาก รวมทั้งยังได้ขอบคุณสื่อมวลชนอีกด้วย
ทั้งนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ขัดข้องหากหน่วยงานต้นสังกัด จะเสนอขอปูนบำเหน็จในแก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน หมูป่าอะคาเดมี่ และโค้ช ส่วนจะมีการเลี้ยงขอบคุณหรือไม่ นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ว่างเว้นจากภารกิจก่อน ค่อยจัดงานเลี้ยงขอบคุณ
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองมองการลงพื้นที่ ครม.สัญจร จ.อุบลราชธานี -อำนาจเจริญ ของนายกรัฐมนตรีมีนัยทางการเมือง ว่า ในการลงพื้นที่ ครม.สัญจร นั้นมีมาเป็นปีแล้ว พร้อมย้ำว่า ไม่มีเรื่องของการดูดนักการเมือง
ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 เดินสายทาบทามนักการเมือง โดยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เช่น การไม่ถูกดำเนินคดีความ โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตนเองไม่รู้ว่าใครถูกดำเนินคดีบ้าง และจะไปแตะต้องในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ แม้แต่นายกรัฐมนตรี ก็ไปแตะต้อง หรือยกเลิก ก็ไม่สามารถทำได้ทั้งนั้น
ขณะเดียวกัน ยังได้ปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ยื่นข้อเสนอในงบในพื้นที่เพื่อแลกกับนักการเมืองเข้าร่วมพรรค ว่า นายสมคิด เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นคนคิดโครงการต่างๆ เพื่อหาเงินเข้ารัฐ ไม่ใช่หาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ดังนั้น จะมีเงินที่ไหนไปยื่นให้นักการเมือง
ส่วนกรณที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชาชาติไทย (รปช.) ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเพื่อเชิญชวนประชาชนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเดียวกันมาร่วมพรรค รปช. นั้น พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ในเรื่องนี้จะต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ตรวจสอบว่าทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งหากเป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จะไม่เกี่ยวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่จะเป็นหน้าที่ของ กกต.
ที่มาข่าว:https://www.innnews.co.th/politics/news_134202/