ศอ.บต.สั่งทบทวนเยียวยากรือเซะ-เบรคเข้า ครม.
ศอ.บต.สั่งเบรคเยียวยาไฟใต้เข้า ครม. ชงตั้งคณะทำงานร่วมถกกันใหม่ หลังครอบครัวเหยื่อกรือเซะกว่า 60 ชีวิตรวมตัวอ่านแถลงการณ์คัดค้านได้เงินเยียวยาแค่ 4 ล้านไม่เป็นธรรม ระบุเหตุการณ์เดียวกันที่สะบ้าย้อยได้ 7.5 ล้าน พร้อมเปิดข้อมูลคนตายส่วนใหญ่เป็นเยาวชนกับคนชรา
นายฐานิส ศรียะพันธุ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.2555 ว่า ทาง ศอ.บต.และคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สั่งให้ชะลอการนำกรอบหลักเกณฑ์การจ่ายเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มแรกเข้าขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่มีกำหนดเสนอในวันอังคารที่ 19 มิ.ย.นี้เอาไว้ก่อน
ทั้งนี้ การสั่งชะลอดังกล่าวเป็นผลมาจากกรณีที่กลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 ที่มัสยิดกรือเซะ ได้รวมตัวกันเมื่อวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.เพื่อคัดค้านมติของคณะกรรมการเยียวยาฯ เพราะไม่พอใจที่จะได้รับเงินเยียวยาเพียง 4 ล้านบาท ขณะที่ผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เดียวกันที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา คณะกรรมการฯกลับมีมติให้จ่ายเยียวยา 7.5 ล้านบาท
"คงต้องชะลอการเสนอเข้า ครม.เอาไว้ก่อน และตอนนี้ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันขึ้นมา โดยมีผู้แทนจาก ศอ.บต.2 คน และผู้แทนจากกลุ่มญาติผู้สูญเสีย 3 คน เพื่อพิจารณารายละเอียดในเชิงลึกว่ามีปัญหาตรงไหน อย่างไร และจะแก้ไขได้อย่างไร" รองเลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว
ญาติเหยื่อกรือเซะฮือขอความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.กลุ่มญาติและครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์รุนแรงที่มัสยิดกรือเซะจำนวนกว่า 60 คนซึ่งเดินทางมาจากหลายพื้นที่ทั้ง จ.ยะลา ปัตตานี และสงขลา ได้ไปรวมตัวกันที่หน้ามัสยิดกรือเซะริมถนนสายปัตตานี- นราธิวาส ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินเยียวยา
นางแสนะ บูงอตันหยง ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งสูญเสียลูกชายคือ นายไซนุดีน มาหะหมัด อายุ 17 ปีในเหตุการณ์รุนแรงที่มัสยิดกรือเซะ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการเยียวยาฯ ตลอดจนอนุกรรมการฯที่ร่วมพิจารณา โดยระบุว่า จากกรณีที่มีการพิจารณาเยียวยาให้กับญาติผู้สูญเสียในเหตุการณ์กรือเซะเป็นเงิน 4 ล้านบาทต่อราย โดยอ้างว่ามีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จึงตัดเงินที่พึงได้รับออกไป 3.5 ล้านบาทนั้น (ยอดสูงสุดที่พึงได้รับคือ 7.5 ล้านบาท) ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตไม่สามารถยอมรับได้ เพราะผลพิสูจน์ที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธสงคราม พบเพียงมีด ดาบ และหนังสติ๊กเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นว่า รัฐไม่ได้ยึดหลักมาตรฐานสากลในการควบคุมสถานการณ์และจับกุมบุคคล เพราะใช้อาวุธทั้งทางอากาศและทางบก ทำให้ผู้ที่อยู่ในมัสยิดเสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวน 32 ราย แยกเป็นเยาวชนอายุ 17-20 ปีจำนวนถึง 10 คน และเป็นคนชรา อายุ 53-62 ปีอีก 7 คน ซึ่งไม่น่าจะมีส่วนร่วมในการปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่รัฐกลับใช้วิธีสามัญฆาตกรรมโดยไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ทั้งยังก่อเหตุในมัสยิดซึ่งถือเป็นเขตอภัยทาน
"พวกเราไม่สามารถรับหลักเกณฑ์ของ ศอ.บต.และอนุกรรมการ ตลอดจนประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีที่ร่วมกันพิจารณาได้ อีกทั้งบางคนยังมาพูดให้เจ็บช้ำว่าจะเอาอะไรอีก เขาให้ 4 ล้านบาทก็มากพอแล้ว พวกเราจะจำคำพูดนี้ไปจนวันตาย ขอถามว่า 8 ปีที่ผ่านมามีหน่วยงานใดมาดูแลบ้างไหม บาดแผลกำลังจะหายแล้ว กลับมาสะกิดให้เจ็บช้ำขึ้นมาอีก ถ้าเป็นญาติของพวกคุณจะรู้สึกอย่างไร พวกเราไม่ได้ต้องการสร้างเงื่อนไข ถ้ารัฐไม่สร้างเงื่อนไขก่อน พวกเราขอเพียงความเป็นธรรม และขอให้มีการพิจารณาใหม่ด้วย" นางแสนะ กล่าว
ดักบึ้ม-ยิงซ้ำทหารชุด รปภ.ครูที่รามันเจ็บ 2
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.40 น.วันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.ตำรวจ สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหารและมีการยิงปะทะกันบนถนนสายรามัน–ท่าธง ท้องที่บ้านปายอยือนิ หมู่ 6 ต.กายูบอเกาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบกำลังทหารชุดที่ถูกลอบวางระเบิดยิงปะทะกับกลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในสวนยางพาราอย่างดุเดือด ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปใหม่ช่วยยิงสนับสนุนเป็นชุดๆ นาน 20 นาทีเสียงปืนจึงสงบลง พบเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลรามัน ทราบชื่อคือ ส.อ.สิทธิพงศ์ ดวงเนตร อายุ 28 ปี และ พลทหารสราวุธ กองธรรม อายุ 24 ปี ทั้งคู่เป็นชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยครู (ชป.รปภ.ครู) สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15211 (ร้อย ร.15211) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 แพทย์ให้การรักษาเบื้องต้นพบว่าอาการสาหัส จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทหารชุดดังกล่าวจำนวน 8 นายได้ออกจากฐานในท้องที่ อ.รามัน ใช้รถกระบะ 1 คันและรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ เพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ รปภ.เส้นทางให้คณะครู แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ปรากฏว่าถูกคนร้ายที่หลบอยู่ข้างทางใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 5-10 กิโลกรัมที่วางดักไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าข้างทาง จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ได้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มซ้ำ จนเกิดการยิงปะทะกันนาน 20 นาที ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปาระเบิดใส่รถทหารพรานโชคดีไม่ตูม
เวลา 10.50 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่หลังเนินดินข้างทาง ใช้ระเบิดแบบมาตรฐานยังไม่ทราบชนิด ขว้างใส่รถกระบะของทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2208 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 กำลังพล 4 นายขณะกลับจากซื้อเสบียงที่ อ.เมืองปัตตานี กำลังมุ่งหน้ากลับฐาน เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องที่บ้านปรีกี หมู่ 3 ต.กระโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แต่โชคยังดีที่ระเบิดไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ส่วนที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เวลาประมาณ 16.15 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายดำเนิน ขุนแก้ว อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านยางแดง ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิต และ นายปราโมทย์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 50 ปี พ่อค้าขายแผ่นซีดี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่นายดำเนินกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดนัดบ้านบ่อทอง อ.หนองจิก โดยคนร้ายตั้งใจจ่อยิงนายดำเนิน แต่กระสุนพลาดไปถูกนายปราโมทย์ทำให้ได้รับบาดเจ็บไปด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงรายวันเพียบ-ดักสังหารขณะเหยื่อไปสวนยาง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย.เวลาประมาณ 05.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายดอรอแม ยูโซ๊ะยาสี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 บ้านนาค้อ หมู่ 3 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านนาจวก หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ขณะที่นายดอรอแมกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปกรีดยางพารา โดยหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ชิงเอารถของนายดอรอแมหลบหนีไปด้วย
เวลา 20.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายอัมรัน แดมะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/2 หมู่ 5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสายบุรี โดยก่อนเกิดนายอัมรันกับพวกได้ไปนั่งเล่นอยู่ที่ขนำในสวนยางพาราท้องที่บ้านโลทู หมู่ 6 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี แล้วถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การทะเลาะวิวาท
ส่วนที่ จ.นราธิวาส กลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย.ต่อเนื่องวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.คนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายซาการียา ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 1 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เสียชีวิต และ นายอามีน อายุยา อายุ 19 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 4 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านสามแยกทางออก อ.ยี่งอ มุ่งหน้าไป จ.ปัตตานี ท้องที่หมู่ 2 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ โดยคนร้ายทำทีจอดรถจักรยานยนต์อยู่ข้างทางในลักษณะรถเสีย แล้วพยายามเรียกวัยรุ่นทั้งสองเข้าไปช่วย แต่สองวัยรุ่นมองเห็นปืน จึงพยายามขี่รถหนี แต่ก็ไม่พ้น ถูกไล่ยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการไล่ยิง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 ที่มัสยิดกรือเซะ รวมตัวกันอ่านแถลงการณ์คัดค้านมติของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อนุมัติกรอบการจ่ายเงินแค่ 4 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ได้ 7.5 ล้าน (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ)
