'คิม' แถลงปีใหม่ ขู่เปลี่ยนแนวทางถ้าสหรัฐไม่ผ่อนแซงก์ชัน
คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ยืนยันยังต้องการพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แต่ขู่พร้อมจะพิจารณาเปลี่ยนแนวทางความสัมพันธ์ หากสหรัฐยังคงมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเช่นนี้ต่อไป
สุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2562 ของผู้นำเกาหลีเหนือครั้งนี้แตกต่างอย่างมากกับสุนทรพจน์วันขึ้นปีใหม่ของปี 2561 ซึ่งครั้งนั้น คิมประกาศว่าเขาได้สั่งการให้เดินหน้าผลิตหัวรบนิวเคลียร์และขีปนาวุธปริมาณมาก และเตือนด้วยว่า ปุ่มกดระเบิดนิวเคลียร์นั้นวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ในสุนทรพจน์เมื่อปีที่แล้ว คิมได้หยิบยื่นไมตรีต่อเกาหลีใต้ โดยบอกว่าเขาพร้อมจะส่งคณะผู้แทนมาร่วมมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ท่าทีนี้เองที่ทำให้ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ สนองตอบ จนนำไปสู่การสานสัมพันธ์และการซัมมิตกัน 3 ครั้งในปีที่แล้ว
ผลจากการสานไมตรีของสองเกาหลี ยังนำไปสู่ซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างคิม กับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งทั้งคู่ได้ลงนามข้อตกลงที่ประกาศว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์พ้นจากคาบสมุทรเกาหลี แต่กระบวนการนี้ไม่คืบหน้า การเจรจาระหว่างผู้แทนรัฐบาลสหรัฐและเกาหลีเหนือหาความเห็นพ้องกันไม่ได้ว่าข้อตกลงที่คลุมเครือนี้มีความหมายอย่างไร และเกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐว่าเรียกร้องแบบอันธพาล ให้เกาหลีเหนือล้มเลิกนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์และตรวจสอบได้ โดยที่สหรัฐไม่ผ่อนปรนการคว่ำบาตร
ในสุนทรพจน์ปีนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวเตือนว่า หากสหรัฐไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวโลก และยังไม่เปลี่ยนแปลงการแซงก์ชันและยังกดดันเกาหลีเหนืออยู่เช่นนี้ "เราก็อาจถูกบังคับให้สำรวจเส้นทางใหม่เพื่อปกป้องอำนาอธิปไตยของประเทศเราและผลประโยชน์สูงสุดของรัฐเรา"
กระนั้น คิมกล่าวว่า เขามีความตั้งใจจะพบกับทรัมป์อีกครั้งทุกเมื่อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ประชาคมระหว่างประเทศให้การตอบรับ
ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/25576

