ทุ่ม6พันล.ผุด"สำเพ็ง-เวิ้งนาคร"ฝั่งธนฯรองรับไทย-จีน-อาเซียน
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี.กรุ๊ป ผู้ประกอบการที่คร่ำหวอดในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ด้วยการเตรียมเปิดโครงการขนาดใหญ่
"ไชน่าเซ็นเตอร์" บนถนนกัลปพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ด้วยที่ดินแปลงใหญ่มากกว่า 125 ไร่ แบ่งเป็น 2 เฟสคือ การเปิดโครงการสำเพ็ง 2 ขนาด 62 ไร่ มูลค่าลงทุน 3,700 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดปลายปี 2556 หลังจากนั้นเตรียมขึ้นโครงการส่วนขยายต่อทันทีบนที่ดินฝั่งตรงข้ามที่เหลือ ซึ่งมูลค่าโครงการไม่ต่างกันมากนัก
ทั้งนี้ โครงการลงทุนดังกล่าวทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้าที่ต้องการขยายธุรกิจ แต่ทำเลเดิมทั้งสำเพ็ง พาหุรัด เยาวราช รวมถึงเวิ้งนาครเขษมไม่สามารถขยาย
พื้นที่ได้อีก รวมถึงเพื่อตอบสนองกลุ่มนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งจากการสำรวจของบริษัทพบว่า นักธุรกิจเหล่านี้มีกิจการขายส่งสินค้าไปยังตลาดสำเพ็งและไม่มีร้านค้าของตนเอง นอกจากนี้ยังพบว่า เจ้าของร้านค้าในย่านสำเพ็งเองต่างก็ต้องการขยายกิจการเพิ่ม เนื่องจากพื้นที่สำเพ็ง พาหุรัดในปัจจุบันคับแคบ ที่จอดรถหายาก รวมไปถึงร้านค้าย่านเวิ้งนาครเกษมที่หมดอายุสัญญาเช่าที่ลงในสิ้นปีนี้
"เริ่มเปิดให้จองเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรายังไม่ได้โฆษณาหรือออกสื่อต่าง ๆ แต่มียอดขายแล้วประมาณ 50% เพราะเป็นการบอกปากต่อปาก และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ไชน่า ปริ๊นเซส เยาวราช ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 2556 จากนั้นจะลงมือโครงการส่วนต่อขยาย 63 ไร่ที่เหลือต่อ"
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโครงการในรูปแบบรีเทลอีกหลายแห่งที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ ในภูเก็ต อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ "เมกะคอมเพล็กซ์ ในทอน" มูลค่า 3,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 70 ไร่ ติดชายทะเลหาดในทอน พัฒนาเป็นโซนพาณิชย์และพลาซ่า ผสานกับรูปแบบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามาผสม รวมถึงยังมีโรงแรมระดับ 3-4 ดาว และพร้อมเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2557 รวมถึงโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ "ที ที เอ็น อเวนิว" บนถนนนางลิ้นจี่ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในครึ่งปีหลังนี้

