เทเลวิชอ่วม! กสทช.จ่อแจ้งความเอาผิด 29 คดี อาม่าไม่รอด โดนด้วย 13 คดี-เจมาร์ท 8 คดี
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอิศรา” ว่า จากกรณีที่ กสทช.มีคำสั่งทางปกครองเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 280 แบบ/รุ่น กว่า 970,000 เครื่อง จาก 27 บริษัทที่นำเข้าจากประเทศจีน เนื่องจากมีการปลอมแปลงเอกสารการรับรองมาตรฐาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากจะให้ผู้ประกอบการ ทั้ง 27 ราย รายงานการครอบครองโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ/รุ่นที่ถูกเพิกถอนดังกล่าวต่อสำนักงาน กสทช.และดำเนินการนำออกหรือทำลายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ/รุ่นที่ถูกเพิกถอนใบรับรอง ภายในเวลา 30 วันแล้ว
“ทางสำนักงานกสทช.จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้ประกอบการ ทั้ง 27 ราย ที่ปลอมเอกสารรับรองมาตรฐาน เพื่อขอใบรับรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1 แบบ/รุ่น ต่อ 1 คดี” นพ.ประวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.จะเดินทางไปแจ้งความต่อ สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ประกอบการทั้ง 27 ราย ทั้งในข้อกล่าวหา “ปลอมแปลงเอกสาร” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และข้อกล่าวหา “แจ้งความเท็จ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137
โดยจะมีบริษัทชื่อดัง อาทิ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ “เทเลวิช” เป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิแฟรนไชร์ในการเปิดและบริหารร้านเทเลวิซจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “เอไอเอส” ถูกแจ้งความ 29 คดี จากการใช้เิอกสารรับรองมาตรฐานปลอม 29 แบบ/รุ่น บริษัท มีเดีย อินฟีนีตี้ จํากัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ Infinity รุ่น R'MA ถูกแจ้งความ 13 คดี บริษัท เจ มาร์ท จํากัด (มหาชน) ถูกแจ้งความ 8 คดี ฯลฯ
สำหรับผู้ประกอบการที่ กสทช.มีมติว่านำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้เอกสารรับรองมาตรฐานปลอม ทั้ง 27 ราย มีดังนี้
1.บริษัท 108 มาร์เก็ตติ้ง จํากัด 2 แบบ/รุ่น
2.บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) 29 แบบ/รุ่น
3.บริษัท เบสคิงส์ จํากัด 10 แบบ/รุ่น
4.บริษัท มีเดีย อินฟีนีตี้ จํากัด 13 แบบ/รุ่น
5.บริษัท โมเดิร์น เทคโนโลยี โมบาย จํากัด 45 แบบ/รุ่น
6.บริษัท โมบาย อาร์ อัส จํากัด 1 แบบ/รุ่น
7.บริษัท สไมล์ โฟน (ประเทศไทย) จํากัด 1 แบบ/รุ่น
8.บริษัท ออลเทค มาเก็ตติ้ง จํากัด 1 แบบ/รุ่น
9.นายอริยะ บุพศิริ 2 แบบ/รุ่น
10.บริษัท คูล คอมพิวเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด 2 แบบ/รุ่น
11.บริษัท เจ มาร์ท จํากัด (มหาชน) 8 แบบ/รุ่น
12.บริษัท เจเจเค.คอร์ปอเรชั่น จํากัด 4 แบบ/รุ่น
13.บริษัท ชาเทอเว คอร์พอเรชั่น (ประเทศไทย) จํากัด 23 แบบ/รุ่น
14.บริษัท ซันไรซ์ อินเตอร์เทรด จํากัด 2 แบบ/รุ่น
15.บริษัท ดี โมบาย (ประเทศไทย) จํากัด 1 แบบ/รุ่น
16.บริษัท ที.ซี. โมบาย โฟน จํากัด 1 แบบ/รุ่น
17.บริษัท ไทยเวย์ อินฟอร์เมชั่น คอมพิวเตอร์ จํากัด 3 แบบ/รุ่น
18.บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จํากัด 3 แบบ/รุ่น
19.บริษัท พี.ที.อี. อินเตอร์กรุ๊ป จํากัด 31 แบบ/รุ่น
20.บริษัท มาสเตอร์ เทคโนคอม จํากัด 45 แบบ/รุ่น
21.บริษัท แม๊ค คอลเลคชั่น จํากัด 2 แบบ/รุ่น
22.บริษัท ไมโครเทเลคอม จํากัด 3 แบบ/รุ่น
23.บริษัท ลอง เชียร์ คอมมิวนิเคชั่น จํากัด 18 แบบ/รุ่น
24.บริษัท เอ. โมบายล์ เวิลด์ จํากัด 19 แบบ/รุ่น
25.บริษัท เอเอซี แอนด์ ที จํากัด 12 แบบ/รุ่น
26.บริษัท แอล บี แอล (2004) จํากัด 2 แบบ/รุ่น
27.บริษัท ไอโอเทค เทคโนโลยี จํากัด 16 แบบ/รุ่น
(คลิก! ดูโทรศัพท์มือถือ 280 รุ่น/แบบ ที่ถูกเพิกถอนใบรับรอง)
ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญาได้กำหนดโทษกรณี "ปลอมแปลงเอกสาร" ไว้ดังนี้
“มาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว”
ขณะที่มาตรา 264 ถึงมาตรา 267 มีถ้อยคำระบุว่า
"มาตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่ง ผู้ใดหรือประชาชนให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 266 ผู้ใดปลอมเอกสารต่อไปนี้
(1) เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
(2) พินัยกรรม
(3) ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ หรือใบสำคัญของใบหุ้นหรือใบหุ้นกู้
(4) ตั๋วเงิน หรือ
(5) บัตรเงินฝาก
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 267 ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงาน ผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสีย หายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ"
ส่วนโทษกรณี "แจ้งความเท็จ"
“มาตรา 137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจ ทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
:::บทความที่เกี่ยวข้อง:::
- บันได 4 ขั้น” ตรวจ “มือถือจีน” ..ทำไม? มีแต่ บ.เล็กๆ ที่ถูกถอนใบอนุญาต
- "เจมาร์ท" ระบุมือถือถูกเพิกถอน 8 รุ่นเกลี้ยงสต็อก ย้ำเสียหายจริง พร้อมรับผิดชอบ
- แบนมือถือ "อาม่า"! กสทช.ลงดาบ สั่งนำออก-ทำลาย ใน 30 วัน หลังถูกเพิกถอนใบรับรอง
- เผย 27 บ.ชื่อดังถูกเพิกถอนใบรับรองโทรศัพท์มือถือ 280 รุ่น เฉียดล้านเครื่อง!
